นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะบริเวณซอยรัชดาภิเษก 32 โดยความคืบหน้า ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2563 แต่ละเขตทำการรวบรวมและประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามามีจำนวน 526 คัน และยังคงให้แต่ละเขตสำรวจอย่างต่อเนื่อง
โดยยอดที่กรุงเทพมหานครได้เคลื่อนย้ายไปได้แล้วทั้งที่เจ้าของย้ายเองและเขตเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้รวม 337 คัน เหลืออีก 189 คัน จะทยอยหาเจ้าของและเคลื่อนย้ายต่อไป
นอกจากนั้นแล้ว หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต ซึ่งหากมีการจับปรับเกิดขึ้น ประชาชนผู้แจ้งจะได้ส่วนแบ่งค่าปรับดังกล่าว เหมือนกับการแจ้งเบาะแสการขับขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นบนทางเท้า
ทั้งนี้ตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากรถยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กรุงเทพมหานครจะนำไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป
สำหรับอัตราการเปรียบเทียบปรับ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ และบทกำหนดโทษ มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
"ภารกิจการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์จะเป็นภารกิจที่จะดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะซากรถยนต์ต่าง ๆ ก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจร และปัญหาด้านความปลอดภัย รถยนต์บางคันจอดนานจนต้นไม้ขึ้น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หรืออาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย เกิดการก่อวินาศกรรม "