จากกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ชื่อโครงการ "คนละครึ่ง" วงเงิน 45,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยจะเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com โดยคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 90,000 ล้านบาท
โครงการ"คนละครึ่ง" รัฐบาลจะแจกเงินให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์คนละ 3,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขรัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ได้รับสิทธิ์ออกเอง 50 เปอร์เซ็นต์ เช่น จะใช้เงินที่รัฐบาลจ่ายให้ 3,000 บาท ประชาชนผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย 3,000 บาท เบื้องต้นจำกัดใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท
เงื่อนไขโครงการ"คนละครึ่ง" เบื้องต้นกำหนดไว้ดังนี้
กลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ"คนละครึ่ง" เน้นไปที่ร้านค้ารายย่อยทั่วไป ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า ครอบคลุมอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ โดยจะต้องขึ้นทะเบียน "ถุงเงิน" ไว้กับธนาคารกรุงไทย มีระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค. - ธ.ค.63
ประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการ"คนละครึ่ง"
เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ โครงการ"คนละครึ่ง"
การลงทะเบียน แอป “เป๋าตัง” รับเงิน 3,000 บาท โครงการ"คนละครึ่ง"
1. เข้าไปที่ Play Store หากคุณใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android และ App Store หากเครื่องของคุณใช้ระบบปฏิบัติการ iOS
2. ค้นหาแอพพลิเคชั่น โดยพิมพ์ว่า เป๋าตัง ภาพโลโก้คือกระเป๋าสตางค์สีฟ้า
3. ดาวน์โหลด เป๋าตัง เพื่อทำการติดตั้งลงเครื่อง
4. เปิดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ยืนยันตัวตนผู้ใช้งานของคุณ ผ่านรหัสลับ OTP โดยกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือผู้ใช้งานลงไปเพื่อรอรับรหัส OTP
5. จากนั้นระบบจะทำการส่งรหัส OTP มาทางข้อความ ในโทรศัพท์มือถือ พอได้มาแล้วก็ให้คุณกรอกรหัสนั้นลงไปในแอป
6. ระบบจะขอ PIN หรือรหัส 6 หลัก ผู้ใช้จะต้องตั้งรหัสรักษาความปลอดภัย 6 หลักนี้เพื่อเข้าใช้งานแอปเป๋าตัง ทุกครั้ง ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องจำรหัส 6 หลักนี้ไว้ให้ดี เพื่อใช้ในการเข้าสู่แอปพลิเคชั่น
7. เมื่อได้รหัส 6 หลักแล้ว ก็สามารถนำรหัสนี้เข้าใช้งานแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ได้เลย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สื่อออนไลน์บางสำนักรายงานโครงการคนละครึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชน 15 ล้านสิทธิ์ รับ 3,000 บาท เพื่อจับจ่ายใช้สอย เป็นการเอื้อทุนใหญ่ เงินเข้ากระเป๋าห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อนั้น
ขอชี้แจงว่า โครงการดังคนละครึ่ง เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ที่ต่อยอดจากโครงการชิมช้อปใช้ โดยร้านค้าที่เข้ามาโครงการจะยังเหมือนเดิม แต่วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ เพื่อขยายร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยมีเป้าหมาย คือกลุ่มร้านค้าหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วย ร้านขายข้าวแกง ร้านขายอาหารและเครื่องมือตามตลาดหรือตลาดนัด เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อกระจายรายได้ลงสู่ผู้ประกอบการรายเล็กให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจถึงมือผู้ประกอบการรายเล็กมากที่สุด โครงการคนละครึ่ง จึงได้กำหนดหลักการเบื้องต้น ให้สามารถใช้จ่ายได้วันละ 100 บาท โดยรัฐออกค่าใช้จ่ายให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ได้รับสิทธิ์ออกเอง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องในการจับจ่ายใช้สอยกับผู้ประกอบการรายเล็ก เช่น การซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ตามร้านค้าหาบเร่แผงลอง หรือร้านโชห่วย โดยภาครัฐจะพยายามช่วยให้ผู้ค้ารายเล็กรายน้อย ได้เข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด เพื่อจะเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล
"สำหรับโครงการคนละครึ่ง รัฐบาลต้องการช่วยเรื่องค่าครองชีพของประชาชน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้ลงไปสู่ผู้ค้ารายเล็กรายน้อย หลังจากที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่ได้ตั้งเป้าให้เงินเข้ากระเป๋าทุนใหญ่แต่อย่างใด แม้โครงการดังกล่าวจะมีห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมก็ตาม แต่จะเห็นได้ว่า หลักเกณฑ์การใช้จ่ายนั้น เอื้อให้มีการซื้อของกับผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยจริงๆ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง