วันที่ 29 ก.ย. 63 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดให้มีการแถลงนโยบายของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อบุคลากรสายคณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างฯ และนักศึกษา โดยมีผู้เข้ารับการสรรหา 3 คน ประกอบด้วย ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ หมายเลข 1 ผศ.ดร.สถาพร สระมาลีย์ หมายเลข 2 และรศ. ดร.ปรัชญา ชุ่มนาเสียว หมายเลข 3
ผศ.ดร. สถาพร แถลงนโยบายว่า ขอชูสโลแกน ทำได้ไว ทำได้จริง 100 % โดยมุ่งพลิกโฉมมหาวิทยาลัย สร้างความเป็นเลิศ กระจายงานกระจายรายได้ของบุคลากร การสร้างสวัสดิการเป็นรายได้นอกจากเงินเดือน เรียกคืนสิทธิจ่ายเต็ม เงินเดือนของพนักงานสายอาจารย์ คืนสิทธิ์ค่าคุมสอบ ปรับค่าคุมสอบให้กลับมาเช่นเดิม การคืนสิทธิการเรียนภาษาจ่ายคืน 5,000 บาท และภาษาที่ 2 จะได้เพิ่มอีก 5,000 บาท รวมถึงการจัดสรรงบประมาณการทำวิจัยแก่คณาอาจารย์ คณะละ 1 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน มีนโยบายนักศึกษาจบไว ด้วยการสอบ eTesting ยุคใหม่นักศึกษาสาขาวิทยบริการฯในต่างจังหวัด ค่าหน่วยกิตเหลือ 25 เท่ากับส่วนกลาง มหาวิทยาลัย พร้อมจัดตั้ง”ตู้ลงทะเบียนเรียนอัจฉริยะ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาที่ไม่สะดวกในการใช้สมาร์ทโฟนและ ออนไลน์ หรือสำหรับผู้มาลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัย ตลอดจนดำเนินโครงการ” เรียนรามวันแรกมีงานทำ” จัดหารายได้ให้นักศึกษาโดยทำข้อตกลงกับภาคเอกชนเจ้าของกิจการ หาตลาดแรงงานรองรับภายหลังสำเร็จหลักสูตรการอบรมระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่อง 3 แคนดิเดต ศึกชิง "อธิการบดี" ม.รามคำแหง
ทั้งยังมีนโยบายให้นักศึกษาสามารถสอบได้ในทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนลูกจ้างมหาวิทยาลัยเกษียณรับบำเหน็จ 5 เท่าของเงินเดือน ขณะที่ลูกหลานบุคลากรทุกคนให้สิทธิได้เข้าเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงทุกระดับทันที นอกจากนี้ ยังชูการนำทุกอาคารกลับมาใช้งานโดยต้องไม่ทิ้งร้าง และต้องดำเนินการเอาผิดทางอาญาและแพ่งกับผู้ที่สร้างความเสียหาย
ขณะที่ ผศ.ดร.สืบพงศ์ กล่าวว่า ตนมีนโยบายการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ มุ่งเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการ ผลักดันโครงการวิจัยหลังโควิด-19 รวมถึงสวัสดิการแก่บุคลากร ลูกจ้าง
ด้าน ผศ.ดร.ปรัชญากล่าวว่า การปรับเปลี่ยนมาตรฐานการศึกษาและการบริการเชิงวิชาการของมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้เข้ากับนโยบายของรัฐบาล การกระตุ้นยอดนักศึกษาให้เรียนต่อปริญญาโททันที การเพิ่มความหลากหลายของนักศึกษา ด้วยการเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ ทหารเกณฑ์ให้เข้ารับการศึกษา พร้อมมีนโยบายอยากสอบเมื่อไหร่ก็สอบ เพื่อผ่อนภาระและความแออัดการสอบลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการสรรหาอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งนี้มีคนขอใบสมัคร 13 คน แต่มีผู้ยื่นใบสมัครเพียง 4 คน ถูกตัดสิทธิ์ 1 คน เหลือผู้ชิงตำแหน่ง 3 คน โดยนายสถาพร สระมาลีย์ และนายปรัชญา ชุ่มนาเสียว เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ นักวิชาการ เป็นลูกเขยของสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคม ที่ถูกปล้นสินสอดในแต่งงาน ซึ่งได้ร่วมชิงตำแหน่งด้วย
สำหรับขั้นตอนต่อไปคือ การเปิดให้ใช้สิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงสรรหาอธิการบดีในวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นี้ ทั้งส่วนกลาง และสาขาวิทยบริการฯ 23 จังหวัด