30 กันยายน 2563 นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังนำคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง กองจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ เข้าตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ หลังเกิดปัญหาจากพฤติกรรมครูที่ไม่เมาะสม การตรวจสอบใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง
นายดิศกุล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครูไปแล้ว 98 คน จากทั้งหมด 411 คน เพราะทางโรงเรียนหาหลักฐานมาแสดงได้เพียงแค่ 98 คน ที่เหลือทางโรงเรียนยังไม่สามารถตามหาเอกสารใบประกอบวิชาชีพครูมาแสดงได้ เนื่องจากมีปัญหาที่ระบบจัดเก็บข้อมูล ในเบื้องต้นพบว่าครูทั้ง 4 ราย ที่เป็นข่าวได้แก่ ครจุ๋ม ครูเปิ้ล ครู่นิ ครูมาร์วิน ชาวฟิลิปินส์ พบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่ก็ต้องดูว่าทางโรงเรียนว่าจ้างมาทำหน้าที่ในตำแหน่งใด
ข่าวเกี่ยวข้อง
ปธ.เครือสารสาสน์ สั่งสอบการทำงาน"ผู้บริหาร" จวกบรรดาผอ.ไม่ใส่ใจเด็ก
“โรงเรียนสารสาสน์ฯ”สั่งไล่ออกครูโหดทำร้ายนักเรียน
เปิดข้อบังคับ "มาตรฐานวิชาชีพครู"
ในกรณีที่โรงเรียนจ้างมาสอนแต่ไม่มีใบอนุญาตจะมีความผิด แต่หากยืนยันได้ว่าไม่ได้จ้างเป็นครู ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับคุรุสภา หรือ พฤติกรรมที่ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นครูจะมีความผิด จึงต้องพิจารณาให้ชัดเจน ทางคุรุสภาก็ให้ความเป็นธรรมได้มีสิทธิ์ชี้เเจง ซึ่งภายในวันนี้ หรือ วันพรุ่งนี้ จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 4 คนได้ก่อน ส่วนที่เหลืออีก 9 คนที่ปรากฏตามคลิป และใช้ความรุนแรงกับเด็กก็จะค่อยๆไล่ตรวจ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 290 คน จะตัองใช้เวลาตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ยังเร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ คาดว่าต้องใช้เวลานานสักระยะ
ส่วนกรณีที่ทางผู้บริหารโรงเรียนได้ชี้แจ้งว่า ครูทั้ง 4 คนและครูจุ๋ม ที่ก่อเหตุในคลิปห้องเรียนเดียวกัน โรงเรียนได้รับการผ่อนผันจากกทางคุรุสภาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการยื่นขอผ่อนผัน โดยโรงเรียนอ้างว่าจะยื่น ซึ่งคำว่าจะยื่น ทางคุรุสภาก็รับไม่ได้ แม้ทั้ง 4 คนจะลาออกจากโรงเรียนแล้ว การเอาผิดดำเนินการตามกฎหมาย สามารถเอาผิดย้อนหลังได้
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวอีกว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องหยุดการเรียนการสอน เพราะหยุดการเรียนนั้น การปิดสถานศึกษาไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะส่งผลกระทบในวงกว้าง
"กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ทางคุรุสภาต้องคุมเข้มในการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนอีกหลายเเห่ง และอาจจะต้องคุยกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตรวจสอบเพื่อตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้ง 42 แห่ง
รวมถึงโรงเรียนอื่นๆ เพื่อดำเนินการป้องกันปัญหาในอนาคตการไม่วางระบบ ไม่มีข้อมูล โรงเรียนจ้างใครมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนก็ไม่รู้ ฐานข้อมูลไม่มี จึงเกิดปัญหา การกำกับจึงตัองวางระบบให้ชัดเจน เชื่อว่าปัญหานี้ ไม่ใช่ที่นี่เเห่งเดียว จึงต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ปัองกันปัญหาในอนาคต" เลขาธิการคุรุสภา กล่าว