เช็กเส้นทางพายุดีเปรสชั่น 2 ลูก จังหวัดไหนกระทบบ้าง

วันที่ 5 ตุลาคม 2563 นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ ทีมกรุ๊ป เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่นจันหอม (#14:Chan-hom) ไม่มาไทย แต่จะไปญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยนั้นคาดว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ จะก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นจะมีผลทำให้ฝนตกปานกลาง และ ตกหนัก ใน 2 ช่วงเวลา คือ วันที่ 7 -  10  ตุลาคม และวันที่ 13 - 14 ตุลาคม 2563 

 

วันที่ 6 -  7 ตุลาคม 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ คาดว่าจะก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่น แล้วเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ทำให้เกิดฝนตกหนักมากที่เมืองญาจาง(Nha Trang) แล้ว เคลื่อนที่ตามชายฝั่งลงทางทิศใต้ที่เมือง Phan Thiet และพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันที่ 7 - 8 ตุลาคม 2563  เคลื่อนที่เข้าสู่กัมพูชาทำให้ฝนตกหนักมากที่เมืองสตึงเต็ง เสียมราษฎร์ พระตะบอง ปอยเปต และพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันที่ 8 ตุลาคม 2563 ฝนตกหนักถึงหนักมากที่จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพ อยุธยา สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันที่ 9 ตุลาคม  2563 ฝนตกหนักถึงหนักมากที่ ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพื้นที่ใกล้เคียง

 

ในช่วงดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 -  10 ตุลาคม 2563 จะทำให้เกิดฝนตกเพิ่มขึ้นและ ฝนตกมากในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของภาคกลาง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ด่วน ประกาศเฝ้าระวังพายุ 7-12 ต.ค. พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม

•  พยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนดีเปรสชั่นกำลังแรงขึ้น เสี่ยงฝนตกหนัก 7-9 ต.ค.นี้

• ไต้ฝุ่น “จันหอม” จ่อถล่มญี่ปุ่น 6-8 ต.ค.

วันที่ 11 - 12 ตุลาคม 2563  คาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ก่อตัวขึ้นเป็นดีเปรสชันในทะเลจีนใต้อีกลูกหนึ่ง

 

วันที่ 12 - 13 ตุลาคม 2563    จะเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้เกิดฝนตกหนักมากที่เมืองเมืองดานัง และคุยนอน(Quy Nhon)

วันที่ 13 ตุลาคม 2563   เคลื่อนที่เข้าประเทศลาวทำให้ฝนตกหนักที่เมือง อัตตะปือ จำปาสัก ปากเซ เซกอง สะหวันนะเขต

 

วันที่ 13 ตุลาคม 2563  เคลื่อนที่เข้าไทย ทำให้ฝนตกหนัก ถึงปานกลาง ที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันที่ 14 ตุลาคม 2563  ทำให้ฝนตกปานกลางถึง ฝนตกหนัก ที่นครราชสีมา สระบุรี ลพบุรี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง

 

วันที่ 15 ตุลาคม 2563  เคลื่อนตัวเข้าไปในประเทศพม่า เข้าสู่ทะเลอันดามัน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังแรงขึ้น แล้วไปขึ้นฝั่งอีกครั้งหนึ่ง ที่ประเทศอินเดีย

 

7 ตุลาคม 2563 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7 – 9 ตุลาคม 2563)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 07 ตุลาคม 2563

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (7 ต.ค. 63) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมิน ประเทศเวียดนามทางตะวันออกประมาณ 470 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออกมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ในวันนี้ (วันที่ 7 ต.ค. 63) หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ต.ค. 63 พายุนี้จะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 63

 

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกและภาคตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค. 63

 

 

คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

 

วันที่ 7 ตุลาคม 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 8 ตุลาคม 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และร้อยเอ็ด

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล