สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "เดลต้า" จะส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 42.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ประมาณการว่า พายุเฮอร์ริเคนเดลต้าซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นสู่ระดับ 4 ในช่วงบ่ายวานนี้ จะส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลดลงราว 29.2% และจะทำให้การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลงเกือบ 8.6%
รายงานระบุว่า บริษัทเชฟรอนได้เริ่มอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนการพัดถล่มของพายุเฮอร์ริเคนเดลต้าในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การประท้วงของพนักงานในบริษัท Equinor จะส่งผลให้การผลิตน้ำมันของนอร์เวย์ลดลง 330,000 บาร์เรล/วัน หรือราว 8% ของการผลิตน้ำมันทั้งหมด
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ต.ค.