เนสท์เล่ประเทศไทย ขานรับนโยบายของบริษัทแม่ โดยล่าสุด ใช้งบประมาณ 1,530 ล้านบาท สร้างโรงงานยูเอชที เนสท์เล่นวนคร 7 ซึ่ง "วิคเตอร์ เซียห์" ประานคณะบริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ สอดคล้องกับนโยบายของเนสท์เล่ระดับโลก ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้รีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% รวมถึงลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2568 พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในปี 2593
"ไชยงค์ สกุลบริรักษ์" ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการสำหรับผู้ใหญ่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่ ที่มีทั้งการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม การผลิตและใช้หลอดกระดาษ รวมถึงเป้าหมายการลดใช้พลาสติกใหม่เหลือ 1 ใน 3 และการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้รีไซเคิลได้ 100% เพื่อพุ่งเป้าสู่การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ทุกอย่างที่ดำเนินการ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ รสชาติและคุณภาพของสินค้าต้องเป็นที่พึ่งพอใจของผู้บริโภค
เนสท์เล่ได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษกับกล่องยูเอชทีตั้งแต่กลางปี 2563 และจะเปลี่ยน 100% ไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2564 รวมไปถึงมีการพิจารณาและศึกต่อไปอีกว่า จะสามารถเปลี่ยนพลาสติกที่หุ้มหลอดเป็นกระดาษด้วยได้หรือไม่ แน่นอนว่าการลงทุนสิ่งใหม่ๆ นี้ ต้องมีต้นทุนที่เพิ่มข้น แต่เนสท์เล่สามารถลดต้นทุนในส่วนอื่นๆ พร้อมทั้งซัพซิไดร์ภาระต้นทุนทั้งหมด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ เนสท์เล่ไทย กำลังทดลองเรื่องบรรจุภัณฑ์ชนิดเติมหรือนำมาใช้ใหม่ได้ (Refillable or reusable packaging) โดยกำลังเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับการรีฟิล เช่น อาหารเช้าซีเรียล หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ พร้อมกันนี้ ในส่วนของโรงงาน หรือส่วนต่อขยายของแวร์เฮ้าส์ จะนำโซล่ารูฟเข้ามาใช้เพิ่มเติม
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,638 วันที่ 24 - 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563