"พิชัย จิราธิวัฒน์" กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า เรื่องการศึกษา เป็นเรื่องที่กลุ่มเซ็นทรัลทำมาแล้วกว่า 30 ปี แต่รูปแบบเดิมคือ ไม่ยั่งยืน จนเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน เข้าไปช่วยเรื่องการศึกษาในฐานะผู้ร่วมคิด ร่วมทำ และแชร์ความรู้ประสบการณ์ กลุ่มเซ็นทรัลจึงเข้าไปร่วม
"ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สำนักการพัฒนาอย่างยั่งยืน กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า เซ็นทรัลได้เริ่มตั้งแต่การศึกษาถึง pain point ของการศึกษา ที่เด็กๆ ต้องออกจากระบบการศึกษาไปด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฐานะครอบครัว การย้ายถิ่นฐาน การขาดความรู้ความเข้าใจในระบบการศึกษาต่อเนื่อง และไม่รู้ความต้องการของตัวเอง ว่าเรียนแล้วจะไปทำอะไร
ในฐานะที่กลุ่มเซ็นทรัลอยู่ในตลาดแรงงานใหญ่ของประเทศ ทำให้ทราบว่า จริงๆ แล้วการศึกษาที่ไทยต้องการมากขณะนี้ คือ แรงงานสายอาชีพ เซ็นทรัลจึงให้ความสำคัญกับการเรียน เพื่อพัฒนาการศึกษาต่อเนื่อง ทำให้เด็กมีโอกาสศึกษาต่อ สร้างงาน สร้างอาชีพ
แนวทางของกลุ่มเซ็นทรัล จึงให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างชุมชน ครอบครัว และองค์กร ทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ แล้วส่งต่อการเรียนรู้ไปสู่โรงเรียนใกล้เคียง โดยบูรณาการการศึกษา สร้างให้ครูไทยเป็นโค้ช เพื่อส่งต่อความรู้ ความรู้ด้านไหนที่กลุ่มเซ็นทรัลไม่ถนัด ก็หาพาร์ทเนอร์มาร่วมบูรณาการ เช่น การร่วมกับบริษัท แปลนทอยส์ จํากัด สร้างห้องอนุบาลเซ็นทรัลทำ ที่จังหวัดกระบี่ โดยใช้วัสดุที่ทำจากยางพารา ซึ่งขณะสร้างเพิ่มเป็นมี 4 โรงเรียนแล้ว
สำหรับการสร้างความต่อเนื่องด้านการศึกษา ผ่านโครงการ "โรงเรียนร่วมพัฒนา" ที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมคิดพัฒนาหลักสูตรประมาณ 30% เพื่อเพิ่มทักษะให้เด็กที่จบมามีศักยภาพตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และทำการจับคู่โรงเรียนและโรงเรียนอาชีวศึกษา เพื่อให้เด็กที่ต้องการเรียนรู้สายอาชีพ สามารถมีที่เรียนได้อย่างต่อเนื่อง โดยทักษะสำคัญที่ต้องการเพิ่มให้กับเยาวชน ได้แก่ คุณธรรม สิ่งแวดล้อม และภาษา ทั้งอังกฤษ จีน และความรู้ด้าน STEM รวมทั้งวัฒนธรรม และกีฬา ที่ส่งเสริมให้เด็กใช้เวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์
ปีนี้มี 7 โรงเรียน 8 อาชีวะ รวมการดำเนินงาน 3 ปี ได้ 15 โรงเรียน เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและอาชีวศึกษาเข้าด้วยกัน ให้ทุน ที่พัก และรายได้หากเด็กมาฝึกงานกับกลุ่มเซ็นทรัลโดยทางเซ็นทรัลจะเขียนแผนงานร่วมกับทางโรงเรียนระยะเวลา 5 ปี พร้อมมีการติดตามประเมินผลทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้ได้ผลตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ เซ็นทรัลยังร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาและเพิ่มหลักสูตร เช่น ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า โรบ็อทโดยอาชีพที่คาดว่าเป็นที่ต้องการของตลดาแรงงานในอนาคต คือ โลจิสติกส์ Hospitality หรือ ธุรกิจบริการ โรบ็อท การเขียนโปรแกรม การซ่อม และแรงงานฝีมือต่างๆ
เป้าหมายของกลุ่มเซ็นทรัลคือ การเพิ่มปริมาณชุมชนที่เชื่อมต่อ สร้างครูที่เป็นโค้ช โรงเรียนที่ร่วมโครงการต้องพัฒนาไปเป็นศูนย์การเรียนรู้ โรงเรียนพื้นฐานและโรงเรียนอาชีวศึกษา ต้องมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ เด็กๆ สามารถต่อยอดความรู้ได้โดยโครงการเหล่านี้ สามรถเชื่อมต่อกับโครงการอื่นของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอด สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มเติม เช่น การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน หรืออื่นๆ ต่อไป
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,640 วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 - 2 มกราคม 2564