นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึงแอพพลิเคชั่นหมอชนะ ว่า เป็นเครื่องมือในการติดตามตัว เพื่อที่จะได้ให้การสอบสวนโรคที่มีความยากให้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการทำให้เปรียบเสมือนพาสปอร์ตผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ ทำให้ภาครัฐมั่นใจมากขึ้นว่าได้มีการแสดงตัว ซึ่งเป็นประโยชน์
โดยในข้อกำหนดในประกาศตามฉบับที่ 16 เพื่อให้ประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ เว้นแต่กรณีเหตุจำเป็น ต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า เมื่อวานนี้มีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร วันนี้จะต้องสร้างความชัดเจน ในเรื่องของการกำหนดโทษ เมื่อมีการติดเชื้อประกอบปกปิดข้อมูล หากเป็นการจงใจปิดบังข้อมูล และไม่มีแอพพลิเคชั่นหมอชนะ อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อปี 2558 และย้ำว่า ไม่โหลด ไม่ผิด
นพ.ทวีศิลป์ ยังขอความเห็นใจและความเข้าใจ ตนอยู่ในส่วนตรงนี้ในการเป็นตัวแทนของศบค. จะพยายามสื่อสารเข้มเกินไปก็ไม่ดี อ่อนเกินไปก็ไม่ได้ ใจจริงอยากให้ทุกคนร่วมกันโดยไม่ต้องบังคับ
“เมื่อวานนี้การสื่อสารออกไปรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เจ็บปวดหัวใจ ที่เห็นในโซเชียลมีเดียออกมาในเชิงทางลบจำนวนมาก แต่เมื่อช่วงเช้ากลับดีใจเมื่อเห็นรายงานยอดดาวน์โหลด 2 ล้านครั้งภายใน 1 วัน ทำให้ลืมความเสียใจและความไม่สบายใจ ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจและปฏิบัติตาม ท่ามกลางวิกฤติ ผมจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ได้พิจารณาตนเองว่าในฐานะที่เป็นโฆษก และสื่อสารกับประชาชน โดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่ในอีสานใต้ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่โดยตรง แต่ตำแหน่งของโฆษกศบค.เป็นตำแหน่งเพิ่มขึ้น มีคนไปค้นเรื่องเงินเดือนของตน เมื่อพูดถึงภาระทางภาษี เงินประจำตำแหน่งเท่าใด มีการรับค่าประชุมอะไรยังไงบ้าง ตนอยู่ตรงนี้ไม่ได้มีเบี้ยประชุมจากการทำงานที่ศบค.ทำงานกันทุกวัน ไม่ต้องการอะไร แต่คนอยากจะรู้ ยืนยันว่าทำงานด้วยใจ ถึงแม้จะไม่มีเงินในส่วนนี้ แต่มีเงินเดือนของตนอยู่แล้วที่ภาครัฐดูแลในเงินเดือนพอประมาณ ก่อนหน้านี้มีเวลาว่างก็ไปหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ช่วงโควิด ไม่สามารถหารายได้ได้
“สิ่งสำคัญผมเป็นข้าราชการ เมื่อนายสั่ง ผู้บังคับบัญชาสั่ง ผมจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ทำหน้าที่มีหลากหลายไม่สามารถโฟกัสอยู่อันเดียวได้ ผมอยู่ในสายการแพทย์ สิ่งที่ต้องเรียนรู้และเรียนรู้ยากที่สุดทางกฎหมาย ความมั่นคง และโรคระบาดวิทยา ซึ่งไม่ได้เป็นวิชาชีพของตัวเอง เนื่องจากผมเป็นจิตแพทย์และจะขอพยายามทำให้ดีที่สุด”
นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า มีข้อบกพร่องแน่นอน แต่ต้องเรียนรู้และสิ่งที่ต้องกระทบแน่นอน คือโซเชียลมีเดีย ที่โยงตนไปกับการเมือง ใครว่าตนยึดติดในอำนาจ ตนไม่เคยคิดจะไปในเรื่องการเมือง และอยากจะอยู่ในหน้าที่ของราชการและทำให้ดี ปฏิบัติตามภาคนโยบายและจะทำให้เต็มที่เพื่อประชาชน หน้าที่ของข้าราชการ ตนก็เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานเพื่อประชาชน ภูมิใจในความเป็นตนเอง
ส่วนที่มีข่าวคราวกระทบทั้งส่วนตัวและครอบครัว ก็ต้องขอความเห็นใจ กำลังใจของการทำงานทุกคนก็ต้องมี ตนพยายามสร้างให้กับตนเองในฐานะจิตแพทย์ แต่ก็กระทบกับหลายอย่าง คิดว่าอย่างไรวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้เสมอ พร้อมกับน้อมนำพระราชดำรัส ของสมเด็จพระสังฆราช ทำให้ตนอยากทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้
“ทุกคนเกิดมาไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็ต้องช่วยตัวเองช่วยครอบครัวมาโดยตลอด แต่คนที่ได้เกิดมาแล้วช่วยเหลือคนอื่นเป็นคนที่มีบุญมากกว่า ผมอยากให้บุญนี้เกิดขึ้นกับตนเอง ทุกวันนี้พยายามตื่นแต่เช้ามาเพื่อศึกษาข้อมูล สื่อสารถูกบ้าง ผิดบ้าง ต้องขออภัย แต่อย่างไรก็เรียนรู้ได้ทั้งหมด และทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อชนะกับโลกนี้ในวันข้างหน้า ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ ผมคนเดียวทำไม่ได้ ขอให้ทุกคนช่วยผมหากทำพร้อมกันตั้ง 60 ล้านคนเราคิดว่าชนะได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.กลับลำ ไม่โหลด"หมอชนะ" ไม่ผิดกฎหมาย
แอป "หมอชนะ" สรุปวิธีดาวน์โหลด ติดตั้ง วิธีใช้ เช็กที่นี่ครบจบ