แฮชแท็ก #Saveหมอทวีศิลป์ ส่งกำลังใจ หลังโดนโซเชียลถล่ม

09 ม.ค. 2564 | 01:57 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2564 | 02:13 น.

แฮชแท็ก #saveหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ ให้กำลังใจ หลังเจ้าตัวเปิดใจปมโซเชียลถล่ม-ทำงานหนัก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้( 9ม.ค.64) แฮชแท็ก #Saveหมอทวีศิลป์ ได้กลายเป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมในทวิตเตอร์(Twitter) มาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา

 

หลังจาก นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ใช้เวลาในการแถลงข่าวของศบค. เปิดใจถึงกรณีถูกโจมตีถ้อยคำที่แถลงและการทำงาน

 

โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา นายแพทย์ทวีศิลป์ แถลงดังนี้ ผมต้องขออภัยและขอโทษในหลายๆ เรื่องที่สื่อสารไปในช่วงภาวะวิกฤตที่มีข้อมูลข่าวสารมากมาย เจตนาที่พูดออกไปในเรื่องแอปพลิเคชั่นหมอชนะนั้น เป็นเรื่องที่เราต้องการความร่วมมือมากๆ ในการใช้แอปพลิเคชั่นนี้เพื่อปกป้องตัวประชาชน สังคมไทย คนไทย และคนที่อยู่ในไทยทั้งหมด 

 

โดยคนที่ป่วย คนที่ปกปิดข้อมูล แล้วไม่มีแอปพลิเคชั่นหมอชนะ คนเหล่านี้ต้องได้รับการกำหนดโทษ การแถลงเมื่อวันที่ 7 ม.ค.จริงๆ มันต้องมีการเชื่อมประโยคกัน ไม่ใช่คนไทยไม่มีหมอชนะแล้วผิด จะผิดต่อเมื่อถ้าป่วยแล้วปกปิดข้อมูลแล้วยังไม่มีแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสอบสวนมากมาย จึงมีกฎหมายขึ้นมาเพื่อคุ้มครองคนส่วนใหญ่ 

 

สิ่งต่างๆ ไม่ได้ต้องการสร้างความตระหนกตกใจหรือรู้สึกว่าถูกบีบบังคับ ผมไม่เคยเป็นแบบนั้น และภูมิใจที่มายืนตรงนี้ ที่ผ่านมาผมได้รับความร่วมมือมาตลอด ศึกหนึกเมื่อต้นปีที่แล้ว สูงสุดต่อวัน 188 ราย ซึ่งพวกเราผ่านมาได้ แต่ครั้งนี้มีตัวเลขหลายร้อยต่อวัน ตนต้องพิจารณาตัวเองในเรื่อง

จึงต้องขอความเห็นใจและขอความเข้าใจผม เป็นตัวแทนศบค. จะพยายามสื่อสาร เข้มเกินไปก็ไม่ดี อ่อนเกินไปก็ไม่ได้ ใจจริงอยากเชิญทุกคนเข้ามาร่วมมือกัน แต่เมื่อสื่อสารออกไปแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจและเจ็บปวดหัวใจเหมือนกัน ที่เห็นในโซเชียลมีเดียออกมาในเชิงทางลบจำนวนมาก

 

แต่เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้(8ม.ค.64) รู้สึกดีใจมากที่เห็น ตัวเลขยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ มีคนดาวน์โหลดในวันที่ 8 ม.ค.เพียงวันเดียวเพิ่มขึ้นมา 2 ล้านครั้ง จะว่าอะไรก็ไม่ว่า แต่พอเมื่อวานนี้วันเดียวเพิ่มขึ้นไป 2ล้านกว่า ก็ลืมความเสียใจและลืมความไม่สบายใจไปเลย ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เข้าใจและปฏิบัติตามในความเป็นวิกฤตอย่างนี้ ผมคิดคำพูดไม่ทัน เพราะบางครั้งข้อมูลเข้ามาจำนวนมากจริงๆก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวในช่วงท้ายก่อนจบการแถลงข่าวว่า สิ่งที่ผมอยากฝากทิ้งท้ายคือ การพิจารณาตัวเองว่าในฐานะที่มาเป็นโฆษก เป็นคนที่สื่อสารกับประชาชนโดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม คือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่รับผิดชอบอยู่ในจังหวัดอีสานใต้ หน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่โดยตรงแต่ตำแหน่งโฆษก ศบค. เป็นตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นมา 

แต่ในกรณีที่ผพูดพาดพิงไปถึงเรื่องภาระของประชาชน เรื่องภาษี ซึ่งเป็นการตัดต่อคำต่างๆ แล้วยังระบุว่าไม่ให้ผมรับเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม เงินประจำตำแหน่ง ไปทำงานเอกชนอย่างไร ซึ่งผมมาทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้รับเบี้ยประชุมแต่อย่างใด จึงขออนุญาตชี้แจงว่าเราทำงานด้วยใจ ผมมีเงินเดือนของตัวเองอยู่แล้ว ดูแลในระดับที่พอประมาณ หากมีเวลาว่างวันเสาร์อาทิตย์ก็ไปหารายได้เพิ่มมาจุนเจือครอบครัว

 

แต่ในช่วง โควิด-19 นี้ไม่ได้ไปออกตรวจข้างนอกเลย รายได้ที่ควรจะได้ก็กลับไม่ได้ด้วยซ้ำไป ขอเรียนให้ทราบ โดยไม่ได้ขอความเห็นใจใดๆแต่เป็นชุดข้อมูลที่จะต้องชี้แจงให้ทราบ

 

เราเองเป็นข้าราชการในเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และในหน้าที่มีความหลากหลายเหลือเกินจนบางครั้งไม่สามารถโฟกัสในสิ่งต่างๆที่เป็นสิ่งเดียวได้ และมาจากสายการแพทย์ สิ่งที่ต้องมาเรียนรู้ และเรียนรู้หนักที่สุดด้านกฎหมาย ความมั่นคง โรคระบาดวิทยา ซึ่งไม่ได้เป็นความรู้ทางสายงานของตัวเอง เพราะเป็นจิตแพทย์ ก็ได้พยายามทำดีที่สุด มีข้อบกพร่องแน่นอน 

 

และผมบอกกับตัวเองว่าจะต้องเรียนรู้ สิ่งที่กระทบมากที่สุดคือที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย โยงผมไปกับการเมือง บอกว่าผมติดในอำนาจ เรื่องการเมือง ซึ่งขอบอกว่าผมไม่ได้คิดที่จะไปทางนั้น อยากอยู่หน้าที่ราชการและทำให้ดีที่สุด ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย และจะทำให้เต็มที่เพื่อประชาชน ผมเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำงานเพื่อประชาชน ภูมิใจในความเป็นตัวเอง ดังนั้น ตอนนี้มีข่าวคราวทั้งหลายและกระทบไปถึงส่วนตัว ครอบครัว ต้องขอความเห็นใจ

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้กำลังใจในการทำงานของทุกคนจะต้องมี ตนเองพยายามสร้างให้กับตัวเอง และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็สร้างขึ้นมาได้เพื่อสู้กับโรค โควิด-19 ให้ได้ และใช้มาตลอด คือ พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้เสมอ 

 

พร้อมน้อมนำพระดำรัสของสมเด็จพระสังฆราช คนที่เกิดมามีแต่คนคอยช่วยเหลือถือว่ามีบุญ แต่คนที่เกิดมาแล้วได้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนที่มีบุญมากกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันทำพร้อมพร้อมกันเพื่อเอาชนะ โควิด-19ให้ได้.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คลิป "หมอทวีศิลป์" เปิดใจ หลังโซเชียลถล่มปม "หมอชนะ"

ความในใจ "หมอทวีศิลป์" วอนคนทั้งชาติ “ละทิ้งความขัดแย้ง” สู้โควิด (คลิป)

“โฆษกศบค.” กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ