นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ผ่าน Blockdit “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ว่า จากที่มีการค้นพบว่า ไวรัสก่อโรคโควิด-19 เป็นไวรัสสารพันธุกรรมสายเดี่ยวที่เรียกว่า อาร์เอ็นเอ (RNA) จึงมีการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติได้ง่ายนั้น ในช่วงที่ผ่านมา มีการตรวจพบไวรัสที่กลายพันธุ์กลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ ในหลายประเทศด้วยกันที่สำคัญได้แก่ 1) สายพันธุ์อังกฤษ 2) สายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3) สายพันธุ์บราซิล 4) สายพันธุ์สหรัฐอเมริกา
และพบว่าไวรัสสายพันธุ์ที่ทั่วโลกต้องให้ความสนใจ และติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่ ไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เพราะเป็นไวรัสที่มีความรุนแรงหรือความดุมากกว่าสายพันธุ์อื่น ที่สำคัญมีรายงานการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนในการจัดการกับไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ลดลงเป็นอย่างมาก ทั้งวัคซีนของ AstraZeneca จากประเทศอังกฤษ วัคซีน Sinovac ของประเทศจีน พบประสิทธิภาพในการวิจัยในอาสาสมัครที่แอฟริกาใต้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จนต้องยุติการฉีดวัคซีนของ AstraZeneca ไปแล้ว
นอกจากนั้น ก็พบว่าวัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna ซึ่งทำการทดสอบในห้องทดลอง ก็พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่อไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ลดลงเช่นกัน ทั่วโลกจึงหันมาให้ความสำคัญกับไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้กันมากทีเดียว ช่วงที่ผ่านมา ไทยเรายังไม่เคยพบไวรัสสายพันธุ์นี้เลย มีแต่พบไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งเราสามารถตรวจสกัดจับได้ที่ SQ ทั้งหมด รวมแล้วเจ็ดรายด้วยกัน
ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรก ที่เราตรวจพบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ โดยมีคนไทยเดินทางที่กลับมาจากแทนซาเนีย และตรวจพบมีไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้นี้โชคดีที่เราดักจับไว้ได้ที่สถานกักตัว ตองชมเชยและขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เราก็จะประมาทไม่ได้ และคงจะต้องติดตามกันต่อไปครับ
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรณีเชื้อโควิด 19 กลายพันธุ์มีความสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1.ทำให้เชื้อระบาดง่ายขึ้น เช่นสายพันธุ์อังกฤษ 2.ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง เช่น สายพันธุ์แอฟริกาใต้ และ3. ทำให้โรครุนแรงขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบ สำหรับประเทศไทยตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ จี เหมือนกับทั่วโลก ส่วนไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อื่นๆ มีโอกาสพบเจอได้ เช่นก่อนหน้านี้พบสายพันธุ์อังกฤษในครอบครัวชาวอังกฤษที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตรวจพบเชื้อและเข้าระบบกักตัวรักษาทำให้เชื้อไม่แพร่สู่ชุมชน
ล่าสุด สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (South African Variant) รายแรกของประเทศไทยเป็นชายไทยอายุ 41 ปี ทำงานรับซื้อพลอยอยู่ที่แทนซาเนีย 2 เดือน วันที่ 29 มกราคมเดินทางมาต่อเครื่องเอธิโอเปียและเดินทางมาไทย จากการตรวจคัดกรองพบว่าสบายดีจึงเข้ารับการกักกันใน State Quarantine โดยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตรวจพบเชื้อจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และไม่แพร่เชื้อสู่ชุมชนภายนอก
“เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้มาจากทวีปแอฟริกา จึงมีการเก็บตัวอย่างส่งไปถอดรหัสพันธุกรรม ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย พบว่าเป็นโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ทีมสอบสวนโรคจึงลงไปตรวจสอบสถานกักกันโรคและโรงพยาบาลพบว่าเจ้าหน้าที่ใส่เครื่องป้องกันอย่างดี และเก็บตัวอย่างส่งตรวจพบเป็นลบทุกคนสำหรับโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ส่วนใหญ่พบการระบาดในทวีปแอฟริกา ยุโรปออสเตรเลีย และอเมริกา ส่วนในเอเชียยังไม่มี จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีผลกับประเทศไทย ดังนั้น การคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่พบสายพันธุ์นี้ โดยนำเข้าสู่การกักกัน เก็บตัวอย่างทันทีที่ถึงประเทศไทย คัดกรองผู้ที่มีอาการและประวัติเสี่ยงเข้าโรงพยาบาลทันที และตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทำให้เชื้อไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ไม่กระจายติดในชุมชนได้” นายแพทย์โอภาสกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 14 ก.พ.64 แบบอัพเดทล่าสุด
ระยองพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 3 ราย พร้อมเปิดไทม์ไลน์จุดเสี่ยง