รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า หลังจากเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศในสัปดาห์นี้ รัฐบาลได้รับรายงานเกี่ยวกับอาการของโรคลมพิษ (Hives) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์
สำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุในทวิตเตอร์ว่า พบผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีอาการของโรคลมพิษที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดโทยามะเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.)
ทั้งนี้ โรงพยาบาลโทยามะ โรไซ ระบุว่า พบผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รายหนึ่งมีอาการของโรคลมพิษ แต่อาการดังกล่าวหายไปอย่างรวดเร็ว โดยทางโรงพยาบาลได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของผู้ที่เกิดโรคลมพิษหลังการฉีดวัคซีนดังกล่าว
โรงพยาบาลโทยามะ โรไซและโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดโทยามะได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 48 คนที่โรงพยาบาลโทยามะ โรไซ หลังจากญี่ปุ่นได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศเมื่อวันพุธ (17 ก.พ.)
ญี่ปุ่นได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 40,000 คนที่โรงพยาบาล 100 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานการพบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทบิออนเทค
อย่างไรก็ดีกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นระบุว่า หากมีผู้เสียชีวิตจากผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชย 44.2 ล้านเยน (419,000 ดอลลาร์) หรือราว 12.5 ล้านบาทให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน 20,000 คนจากทั้งหมด 40,000 คนแรกนั้นได้เข้าร่วมในการศึกษาผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดวัคซีน โดยทำการเก็บบันทึกข้อมูลรายวันเป็นเวลา 7 สัปดาห์หลังจากการฉีดวัคซีน 2 เข็มแรก ซึ่งจะเว้นระยะห่างกันราว 3 สัปดาห์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง