นายฟิลลิป ดอนเนท (Philippe Donnet) ประธานกรรมการบริหารของกลุ่ม เจนเนอราลี่ กล่าวว่า การริเริ่มแผน เฟนิเช่ 190 เจนเนอราลี่ต้องการเป็นผู้นำในการสนับสนุนภาคนวัตกรรม ความยั่งยืน และกลยุทธ์เพื่อการเริ่มต้นใหม่ของเศรษฐกิจยุโรป และยังรวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตครั้งนี้ด้วย
เฟนิเช่ 190 (Fenice 190) คือแผนช่วยเหลือที่ได้เปิดตัวในปี ค.ศ. 2020 โดยเป็นการลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs และภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Economy) และได้บรรลุเป้าหมายการลงทุนที่กำหนดไว้ 1 พันล้านยูโร หรือ 36,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจนเนอราลี่จะเพิ่มเม็ดเงินอีกจำนวน 18,000 ล้านบาท (500 ล้านยูโร) ต่อปีตลอดระยะเวลา 5 ปีจากนี้ เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านกองทุนการลงทุนระหว่างประเทศ ที่เน้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและการในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ธุรกิจ SMEs ที่อยู่อาศัยสีเขียว (green housing) ตลอดจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดูแลสุขภาพและการศึกษา
แผนเฟนิเช่ 190 จะดำเนินการผ่านมัลติ-บูทีคแพลตฟอร์ม (multi-boutique platform) ของเจนเนอราลี่ อินเวสท์เมนทส์(Generali Investments)โดยเปิดสำหรับกองทุนบุคคลที่สาม นักลงทุนสถาบัน ตลอดจนบริษัทภายใต้กลุ่มเจนเนอราลี่ สามารถมีส่วนร่วมในการจัดสรรการลงทุนตามวัตถุประสงค์ของตนเอง ทั้งนี้ การคัดเลือกแผนลงทุนต่างๆ ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการการลงทุนของหน่วยธุรกิจการบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Asset & Wealth Management Business Unit) ปัจจุบันได้มีการจัดสรรการลงทุนไปแล้วกับ 10 กองทุน คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 1.05 พันล้านยูโร หรือเกือบ 40,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายด้าน อาทิ การสนับสนุน SMEs ในยุโรป ตลอดจนถึงที่อยู่อาศัยสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นด้านดิจิทัล สุขภาพ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายกาเบรียล กาลาเตรี ดิ เจโนลา (Gabriele Galateri di Genola) ประธานของกลุ่มบริษัท Assicurazioni Generali กล่าวว่า การฉลองครบรอบ 190 ปี เจนเนอราลี่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสู่สังคมที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการลงทุนผ่านแผนเฟนิเช่ 190 และเจนเนอราลี่ ยังฉลองครบรอบปีที่ 190 ด้วยโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี ค.ศ.2021 โดยในเดือนธันวาคมมีการบูรณะและปรับปรุงอาคาร Procuratie Vecchie ในเมืองเวนิส ที่ดูแลโดยสถาปนิก เดวิท ชิปเปอร์ฟิลด์ (David Chipperfield) คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกหลังในรอบ 500 ปี ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางในระดับโลกของมูลนิธิ เดอะ ฮิวแมน เซฟตี้ เนท (The Human Safety Net) ด้วย
มูลนิธิ ดิ ฮิวแมน เซฟตี้ เนท (The Human Safety Net) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2017 มีพันธกิจในการปลดล็อคศักยภาพของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวและชุมชนได้ โดยมูลนิธิฯ มีโครงการที่ให้การสนับสนุนครอบครัวที่มีเด็กอายุ 0-6 ปี รวมถึงส่งเสริมการปรับตัวของผู้ลี้ภัยเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมผ่านการทำงานและการประกอบกิจการ ปัจจุบัน The Human Safety Net มีการดำเนินงานใน 23 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย และมีการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเครือข่ายขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรกว่า 50 องค์กร ถือเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมทางสังคมซึ่งจะจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ในเมืองเวนิส โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่ต้องการการแก้ไขเร่งด่วน โดยการดำเนินงานทั้งหมดนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเจนเนอราลี่ในการเปลี่ยนเมืองเวนิสให้เป็นเมืองหลวงแห่งความยั่งยืน
สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีการเปิดตัวอิดิชั่นแรกของ EnterPRIZE ที่จัดทำขึ้นเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในยุโรป โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินงาน โดยเป็นการนำเสนอมุมมองให้ผู้ที่กำลังประกอบธุรกิจ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และเจนเนอราลี่จะเปิดใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด โดยสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาและข้อมูลเกี่ยวกับความยั่งยืนได้ ขณะเดียวกันจะมีการนำเสนอสมุดปกขาว (White Paper) ด้านความยั่งยืนฉบับแรกที่จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัยบอคโคนี่ (Bocconi University) ที่มุ่งเน้นถึงผลของการนำหลักการด้านความยั่งยืนมาใช้ในธุรกิจ SMEs ในยุโรป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ผลกระทบของภาคเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลกระทบมาถึงยังประเทศไทยด้วย แม้ว่าประเทศไทยจะมีการบริหารจัดการผลกระทบจากโควิดได้เป็นอย่างดี แต่ภาคธุรกิจโดยรวมก็ยังคงต้องเน้นย้ำเพื่อฟื้นฟูสำหรับประเทศไทยด้วย ในฐานะภาคธุรกิจประกัน แน่นอนว่า บริษัทฯ ยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต การเฉลิมฉลอง 190 ปีนี้ เป็นมากกว่านั้น เจนเนอราลี่เป็นแบรนด์ประกันระดับโลกที่มีจุดแข็งที่ความมั่นคง สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการฉลองครบรอบ 190 ปี ยังรวมถึงที่เมืองทรีเอสเต้ ซึ่งเจนเนอราลี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมปี ค.ศ.1831 และกิจกรรมร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น โดยพื้นที่ภายในอาคาร Palazzo Berlam ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสถาปนิก มาริโอ เบลลินี่ Mario Bellini จะเป็นที่ตั้งของหอจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ของบริษัท และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมด้วยรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ
เจนเนอราลี่ ยังเปิดหลักสูตรและการเรียนการสอนที่ กรุ๊ป อะคาเดมี (Group Academy) ศูนย์ฝึกอบรมระดับโลกแห่งใหม่ซึ่งจะเปิดตัวที่ Palazzo Berlam เช่นกัน และเพื่อเป็นการดำเนินรอยตามธรรมเนียมของเจนเนอราลี่ ในการนำเสนอประเด็นร่วมสมัยผ่านการสื่อสารด้วยโปสเตอร์โฆษณา เจนเนอราลี่จะมอบโจทย์ให้ศิลปินชาวอิตาลีและศิลปินต่างชาติห้าคน ตีความแนวคิดสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ใน 5 ด้าน ภายใต้โครงการ “This is Tomorrow” นำเสนอผ่านการสร้างสรรค์โปสเตอร์ที่สื่อถึงความเป็นจริงในรูปแบบใหม่
นอกจากนี้ พนักงานกว่า 70,000 คนของกลุ่มบริษัทฯ จะมีบทบาทสำคัญในการร่วมฉลองก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์ 190 ปี โดยเจนเนอราลี่จะเชิญชวนให้พนักงานทั่วโลกร่วมบอกเล่าเรื่องราวของเจนเนอราลี่จากมุมมองของแต่ละคน เป็นการนำประสบการณ์ส่วนตัว บอกเล่าผ่านแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ การแข่งขันจะคัดเลือกเรื่องราวที่ดีที่สุดจากพนักงาน 190 คน ที่เรียกว่า ไลอ้อนส์ (Lions) ซึ่งจะได้เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองครบรอบ 190 ปีของเจนเนอราลี่ด้วย