ที่ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญ #OpenThailandSafely เมื่อ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
เหตุผลคือ ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มฉีดวัคซีนโควิดกันแล้ว และคาดว่าจะแพร่หลายภายในกลางปี เช่นเดียวกับในประเทศไทย ที่เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้บุคลากรแนวหน้าทั้งในภาคบริการต้อนรับและประชาชนกลุ่มเปราะบาง การประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว 1 กรกฎาคม 2564 จะสร้างความมั่นใจให้นักเดินทาง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็จะได้วางแผนดำเนินธุรกิจกันต่อ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจกันอีกครั้ง
ไม่เพียงแต่ในไทย ที่เริ่มคึกคักกับการท่องเที่ยว ล่าสุด จากผลสำรวจ Time Out Travel Survey สื่อและบริการระดับโลก ที่สำรวจความคิดของคนทั่วโลกกว่า 2.1 หมื่นคน พบว่า กว่า 1 ใน 3 กำลังวางแผนท่องเที่ยวตามเมืองในปีนี้ โดยนักท่องเที่ยวกำลังแสวงหาการท่องเที่ยวในเมืองผสมผสานกับการเที่ยวธรรมชาติ หรือ “Fusion Trip”
“Fusion Trip” นักท่องเที่ยวจะสำรวจในเมือง รวมถึงลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมกับสำรวจแหล่งวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน หลังจากท่องเมืองสัก 2-3 วันแล้ว นักท่องเที่ยวจะออกไปค้นหาเส้นทางธรรมชาติ สถานที่กลางแจ้ง และกิจกรรมกลางแจ้งในบริเวณใกล้เคียง
Time Out ได้ระบุถึง 15 เมืองชั้นนำที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของ “Fusion Trip” เมื่อการเดินทางระหว่างประเทศกลับสู่ภาวะปกติ ได้แก่ สเปน บาเซโรน่า /Montseny และ Madrid / Sierra de Guadarrama, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Dubai / Hatta, ตุรกี Istanbul / Beyekada, โปรตุเกส Lisbon / Comporta, สหราชอาณาจักร London / South Downs, ฝรั่งเศส Paris / Seine Normande, สหรัฐอเมริกา Chicago / Indiana Dunes, Los Angeles / Santa Monica Mountains, New York City / Hudson Valley, San Francisco / Mount Tamalpais, เอเชีย Hong Kong / Sai Kung, Singapore / St John’s Island, ญี่ปุ่น Tokyo / Okutama, ออสเตรเลีย Melbourne / Bellarine Peninsula และ Sydney / Ku-Ring-Gai Chase
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 24 ฉบับที่ 3,659 วันที่ 7 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2564