พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่หลายคนเข้าใจว่ายาฟาวิพิราเวียร์ขาดแคลน ก็ต้องขอแจ้งว่ารัฐบาลมีการจัดเตรียมแผนสำรองในการจัดหาไว้แล้วโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ใช่ยาที่กินแล้วป้องกันโควิด-19 ส่วนวัคซีนก็เป็นวัคซีนที่สร้างภูมิต้านทานในตัวเรา ให้เข้มแข็งขึ้นและไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น
ทั้งนี้รัฐบาลได้มีแผนจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ ในเดือนเม.ย.-พ.ค.จำนวน 2 ล้านเม็ด เดือนพ.ค.-มิ.ย.จำนวน 1 ล้านเม็ด เดือนมิ.ย.- ก.ค.จำนวน 5 แสนเม็ด ฉะนั้นจะสั่งซื้อยาฟาวิพิราเวียร์สำรองในสต๊อกจำนวน 3.5 ล้านเม็ดให้ได้เร็วที่สุด
"วันนี้ทราบว่ายังมียาฟาวิพิราเวียร์พอสำหรับในขั้นต้นที่จะใช้ในการรักษาสต๊อกต่างๆที่เตรียมไว้หากสถานการณ์เร็วร้ายมากขึ้นก็ต้องเพิ่มไปอีกฉะนั้นก็ต้องมีแผนเป็นขั้นตอน"
นายกฯกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามมาตรการเดิมที่มีอยู่คือการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างและล้างมือ ทั้งนี้เห็นหลายจังหวัดมีการควบคุมผู้ที่ใส่หน้ากากและไม่ใส่หน้ากากและมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ใส่หน้ากาก
"ก็ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนแต่บางครั้งก็จำเป็น เพราะไม่อย่างนั้นทุกคนก็ประมาทเลินเล่อ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้นเรื่อยๆ ตนก็โทษใครไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องไม่โทษซึ่งกันและกัน แล้วก็ร่วมมือกัน"
เมื่อถามว่า ขณะนี้พบว่าบุคลากรทางแพทย์ติดโควิด-19 จำนวนมากจะกระทบการรักษาผู้ป่วย จะมีแนวทางอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าเขาติดมาอย่างไร เขาไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาต้องเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงทหารตำรวจที่ไปดูแลด่านตรวจ จุดสกัดต่างๆดูแลผู้ชุมนุมหรือดูแลในแหล่งที่มีการแพร่ระบาด
"เขาติดเชื้อมาก็ต้องเห็นใจ ต้องเขาดูแลเขา ฉะนั้นตนไม่อยากให้ไปสร้างภาระให้กับบุคลากรในเรื่องที่จะไม่จำเป็นที่ต้องใช้คนจำนวนมากลงไปดูแลใกล้ชิดกันอีกมันก็จะเป็นการแพร่เชื้อขยายกันต่อไป เราต้องรักษาบุคลากรทางการแพทย์ให้มากที่สุดซึ่งรัฐบาลก็มีมาตรการในการดูแลบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้ว"
ขณะที่การเข้าถึงวัคซีนของประชาชน นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเร่งรัดไปแล้วจึงทราบว่าในส่วนของแอปพลิเคชันหมอพร้อม กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มให้มีการลงทะเบียนในวันที่ 1 พ.ค. เนื่องจากจะต้องมีการเตรียมการมากพอสมควรเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั้งประเทศได้โดยเร็ว เดิมมีการนำข้อมูลมาจากผู้ที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลต่างๆทั่วประเทศซึ่งก็ได้มาจำนวนหนึ่ง แต่ที่เหลือก็ต้องหาเพิ่มเติมว่าคนทั้งประเทศมีความต้องการจะฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจเท่าไหร่อย่างไร
“ขอขอบคุณกำลังใจที่ให้มากับผม ให้มากับรัฐมนตรี ให้กับครม. ซึ่งประชาชนส่วนมากก็ให้กำลังใจมากับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ให้กำลังใจกับรัฐบาลซึ่งผมก็จะไม่หยุดนิ่งในการที่จะคิดบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องฟังความคิดเห็นจากกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์”
เมื่อถามว่าจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้กระทบเศรษฐกิจและมีคนตกงาน นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องคนตกงานรัฐบาลก็มีหลายมาตรการที่ออกไป ซึ่งต้องไม่ลืมว่ามาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นมาตรการที่ทำให้รักษาการจ้างงานไว้ให้ได้มากที่สุด และก็จะดูว่าจะทำอย่างไรกันอีก ทั้งเรื่องเอสเอ็มอีหรืออะไรต่างๆ ที่จะต้องมีการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณที่มีอยู่เดิม ตรงนี้เป็นวิธีการทำงานของเรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง