“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า ครม.มีมติรับทราบแผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระที่อยู่ใน “สรุปผลการประชุม ศบค. หรือ คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 5/2564” เมื่อวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564
โดย “แผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19” ที่นำมารายงานให้ครม.รับทราบนั้น ในที่ประชุมศบค.ได้พิจารณาแผนการให้บริการวัคซีนฯ ดังนี้
แผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ของประเทศไทย พ.ศ. 2564 ดังนี้
การจัดสรรจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ให้หน่วยบริการ
ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 15 เมษายน 2564 รวมจำนวน 1,043,589 โดส โดยได้จัดส่งวัคซีนของบริษัท Sinovac จำกัด ถึงหน่วยบริการเป้าหมายใน 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว จำนวน 957,429 โดส และจัดส่งวัคซีนของบริษัท AstraZeneca จำกัด ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร จำนวน 86,160 โดส
การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่ 77 จังหวัด
มีจำนวนยอดสะสมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 15 เมษายน 2564 รวมทั้งสิ้น 586,032 โดส จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 510,456 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 75,576 ราย โดยจำแนกตามกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีนฯ ดังนี้
กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19
1) บุคลากรสาธารณสุข 2) เจ้าหน้าที่อื่น ๆ 3) ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป 4) ผู้ที่มีโรคประจำตัว 5) ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง มีรายละเอียด ดังนี้
แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย ภายในปี 2564 ดังนี้
ข้อเสนอแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด - 19 (Sinovac) จำนวน 1,000,000 โดส ในเดือนเมษายน 2564
ความเห็นและข้อเสนอแนะของที่ประชุมศบค. ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมศบค. ระบุว่า
1. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 (ศปก.สธ.) เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ให้กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เสี่ยงในระยะเร่งด่วน และสร้างความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
2. ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 กระทรวงมหาดไทย (ศปก.มท.) ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 (ศปก.สธ.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม/เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และให้มีการเปิดรับอาสาสมัครจากภาคส่วนต่าง ๆ ในการสนับสนุนรถพยาบาล รถกู้ชีพ และรถกู้ภัยต่าง ๆ เพื่อช่วยในเรื่องการรับส่งผู้ป่วยโควิด – 19 ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ที่อาจขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น
3. ให้โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อสารและชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และความจำเป็นของการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด - 19 ในการระบาดระลอกเมษายน 2564 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของประชาชน