นายฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้รับทราบจากข่าวและเอกสารว่า คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.บุรีรัมย์ ว่า “เนชั่นทีวี“ หมิ่นประมาท กรณีเสนอข่าวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ และกรณีการเปิดเผยไทม์ไลน์ของท่าน โดยแจ้งความเอาผิดกับบริษัท + ประธาน เนชั่น ทีวี (ซึ่งหมายถึงผม) และผู้ประกาศข่าวอีก 2 ท่าน
ผมจึงใคร่ทำความเข้าใจดังนี้
1. ตามปกติองค์กรสื่อที่เสนอข่าวสาร ย่อมมีผลกระทบต่อบุคคล องค์กรใดๆ ได้เสมอ ไม่ว่าบวกหรือลบ ดังนั้นเรื่องคดีหมิ่นประมาท องค์กรสื่อ หลายๆ องค์กรที่ทำหน้าที่เยี่ยงมืออาชีพ ย่อมต้องเคยประสบ... ผู้ที่คิดว่าตัวเองได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าว ก็มีสิทธิ์อันชอบที่จะฟ้องหรือร้องทุกข์ เป็นตามปกติเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นก็ต้องพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรมว่าการนำเสนอข่าว กับการแจ้งความดำเนินคดี เป็นไปด้วยความสุจริตหรือไม่ ? และใครคือผู้ที่ได้ประโยชน์ ? ประเทศชาติ ? ประชาชน ? องค์กรสื่อที่นำเสนอข่าวนั้น ? หรือ ตัวผู้ตกเป็นข่าว ?
2. ในฐานะประธานเนชั่นทีวี ผมทำหน้าที่บริหารภาพรวมและธุรกิจในองค์กรเพื่อให้องค์กรมีความมั่นคงทั้งต่อพนักงานและผู้ถือหุ้น ภายใต้การทำหน้าที่เยี่ยงมืออาชีพ ตามอุดมการณ์สื่อ แม้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาร “เนื้อหา” แต่อย่างใด แต่ผมไม่มีทางปฏิเสธความรับผิดชอบที่ปรากฏ
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ทั้งนักการเมืองและบุคคลสาธารณะทั้งหลายมักใช้วิธีการ “ฟ้องปิดปาก” หรือ “SLAPP” ซึ่งย่อมาจาก Strategic Lawsuit Against Public Participation ที่แปลได้ว่า "การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของสาธารณชน"
ดังนั้นการฟ้องคดีลักษณะนี้ เป็นไปโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เสียงแห่งสื่อมวลชนที่บริสุทธิ์และการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงต่อสาธารณะอ่อนแรงและเงียบลงไป
ดังนั้นโดยสรุป “SLAPP” (แสลป) ก็คือการตบปากคนด้วยกฎหมาย เมื่อผู้มีอำนาจไม่อยากจะฟัง... แปลให้ง่ายๆ ก็คือการฟ้องให้หุบปาก หรือ ที่นิยามว่า “การปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ” หรือเพื่อและเพื่อขอเจรจา
ในทางสาธารณะ “SLAPP” นี้คือ "การฟ้องคนหรือกลุ่มคนที่พูดหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นอันเป็นประโยชน์สาธารณะ โดยใช้กระบวนการทางศาลขัดขวางคำพูดหรือการกระทำของบุคคลเหล่านั้นไม่ให้ราบรื่น" ซึ่งนี้จะได้ผลเป็นทั้งการข่มขวัญ ผลาญเงินทอง ผลาญกำลังและเวลาของบุคคลเหล่านั้นไม่ให้เหลือมาใช้กับการถกเถียงสาธารณะต่อไปได้ และที่ร้ายที่สุดก็คือเป็นการ "เชือดไก่" ไม่ให้คนอื่นนึกอยากจะมีปากมีเสียงในประเด็นนั้นๆ หรือแม้แต่ในประเด็นประโยชน์สาธารณะอื่นๆ อีก
3. ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องสามารถถูกตรวจสอบได้ทั้งเรื่องการทำงานและพฤติกรรมส่วนตัวที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม ขณะเดียวกันบุคคลสาธารณะผู้นั้นก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการตรวจสอบการทำงานของสื่อ แต่ไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้สิทธิ์ดังกล่าวเพื่อให้สื่อยุติการตรวจสอบตน
สุดท้ายนี้ ในฐานประธานบริษัท... “เนชั่นทีวี” จะเดินหน้าเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้คนในสังคมในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป โดยไม่ย่อท้อต่ออำนาจและอิทธิพลใดๆ
เครือเนชั่น ยังยืนหยัดในจุดยืนที่มั่นคงต่อการทำหน้าที่สื่อมวลชน เพื่อนำข้อมูลข้อเท็จจริงไปสู่ประชาชนให้มากที่สุด ภายใต้สิทธิเสรีภาพที่มีตามรัฐธรรมนูญ...
สื่อเป็นคนกลางระหว่าง นักการเมือง กับ ประชาชน หากตัดสื่อตรงกลางออกไป ข่าวสารต่างๆจะไม่ไปถึงประชาชน ดังนั้นในทุกยุคทุกสมัย นักการเมืองมักจะใช้วิธีการแบบนี้ การกลั่นแกล้งและใช้มาตรการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเชิงลึกและตรงไปตรงมา... แต่ไม่มีทางสำเร็จ เหมือนกับการเอาฝ่ามือไปปิดฟ้า ไม่มีทางจะปิดได้มิด
วันนี้... องค์กรแห่งนี้เดินทางมายาวไกลถึง 50 ปี เราเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ นักการเมืองมาแล้วก็จากไป แต่สื่อที่เป็นสถาบันจะต้องอยู่คู่กับสังคมไทยเพื่อประเทศชาติสืบไป
ฉาย บุนนาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :