กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอรัฐบาลทำการฉีดวัคซีน ให้ผู้ปฏิบัติงานแนวหน้าในภาคคมนาคมขนส่งทุกระบบ 2 กลุ่มหลัก “บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานแนวหน้าและสัมผัสกับประชาชนผู้รับบริการโดยตรง ทั้งอากาศยาน เรือโดยสาร สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ ด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง และบุคลากรภาคเอกชนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับหน่วยงาน”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยในสวัสดิภาพและสุขภาพของประชาชนผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท เตรียมจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 ให้ผู้บริการภาคคมนาคมขนส่ง พร้อมมอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อทำการสำรวจและรวบรวมจำนวนผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบสำหรับใช้เป็นข้อมูลประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีน โดยเน้นให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้งบประมาณในส่วนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลร่วมไปด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทวีคูณและกระจายไปทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว กระทรวงคมนาคม ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภท การปฏิบัติงานของบุคลากรของหน่วยงานในสังกัด โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่ในงานแนวหน้า (Front Line) มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัส COVID-19 และอาจเป็นเหตุของการแพร่กระจายเชื้อ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 จึงมอบให้หน่วยงานในสังกัดพิจารณาสำรวจจัดทำข้อมูลจำนวนบุคลากรในกลุ่มเสี่ยงสูงที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรกดังนี้
1. กลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานแนวหน้าและสัมผัสกับประชาชนผู้รับบริการโดยตรง เช่น บุคลากรที่ปฏิบัติงานที่ทำอากาศยาน ทำเรือโดยสาร สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ ด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง เป็นต้น
2. บุคลากรภาคเอกชนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับหน่วยงาน เช่น พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ พนักงานเก็บค่าโดยสาร พนักงานเก็บค่าผ่านทาง พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่บนสายการบิน พนักงานอำนวยความสะดวกและบริการประชาชนประจำท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และท่าเรือ เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้มอบให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำการรวบรวมและพิจารณาผู้ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบ ทั้งในส่วนของผู้บริการภาครัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชนทั้งหมดเป็นการเร่งด่วน เพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณาจัดสรรการฉีดวัคซีนให้ผู้ให้บริการทุกคน เป็นลำดับถัดไป หลังจากฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรอื่นที่สัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน โดยกระทรวงฯ จะเร่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป