อัพเดท โครงการ"เราชนะ" ภายหลัง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในระลอกเดือนเมษายน 2564 โดยหนึ่งในมาตรการเยียวยาประชาชน คือ โครงการ"เราชนะ" ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิ์ 32.9 ล้านคน โดยเพิ่มวงเงิน 2,000 บาท สัปดาห์ละ 1,000 บาท 2 สัปดาห์ ใช้จ่ายถึง 30 มิถุนายน 2564
ล่าสุด นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ"เราชนะ" จะได้นำเสนอรายละเอียดและแนวทางการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมของโครงการฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564
เตือนระวังข่าวปลอม
โฆษกกระทรวงการคลัง เตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวังข่าวปลอมในลักษณะของข้อความสั้น (SMS) หรือข้อมูลที่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ที่อาจมีการฉวยโอกาสหลอกลวง โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ จากช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการจากทางราชการ ได้แก่ www.เราชนะ.com , www.mof.go.th , www.fpo.go.th และ Facebook Fanpage “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง” และ “สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง: Fiscal Policy Office”
ความคืบหน้าของโครงการ"เราชนะ" ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ดังนี้
1.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,742 ล้านบาท
2.ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 115,246 ล้านบาท
3.ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,243 ล้านบาท
ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการ"เราชนะ"แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 204,231 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 24.9 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : Fiscal Policy Office
ข่าวที่เกี่ยวข้อง