จากแนวทางการดำเนินของเอสซีจีที่ให้ความสำคัญกับเรื่องหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายการเดินหน้าสู่องค์กรต้นแบบธุรกิจ ESG “รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี ทั้งกลุ่มจะดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับ ESG ด้วยการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และการพัฒนาสังคม โปร่งใส่และตรวจสอบได้ โดยเฉพาะการดูแลกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
นอกจากนี้ เอสซีจียังเร่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการโซลูชั่นครบวงจรทางด้าน Circular Economy ที่เกี่ยวความเป็นอยู่และการใช้ชีวิต รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าและบริการสำหรับใช้ในโรงงาน
รวมไปถึงการมีแนวคิดการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น เรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียน ให้มากขึ้นโดยล่าสุด มีการลงนามในสัญญาซื้อหุ้นในบริษัทรีไซเคิลพลาสติก Sirpllaste ที่ประเทศโปรตุเกสซึ่งถือเป็นโรงงานระดับต้นๆ ที่ทำเรื่องการรีไซเคิลพลาสติกแบบครบวงจรเอสซีจีและ Sirpllaste จะประสานการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสสุดในเรื่องของการใช้ทรัพยากร การรีไซเคิลเม็ดพลาสติก รวมไปถึงการขยายตลาดในยุโรป และอาเซียน ซึ่งเอสซีจีมองว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก เนื่องจากความยั่งยืนเรื่องพลาสติกและการรีไซเคิลเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังเดินไป
ส่วนในแง่ของสังคม ขณะนี้เอสซีจีและเอสซีจีพี ได้พัฒนาเตียงสนามกระดาษที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100% รองรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ 2.2 หมื่นชุด ครอบคลุมเกือบ 77 จังหวัดทั่วประเทศรวมทั้งได้เปิดให้ใช้พื้นที่ของเอสซีจีสำนักงานใหญ่ บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ เป็นจุดกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ มิ.ย.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 23 ฉบับที่ 3,676 วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564