รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
สัปดาห์ก่อนไปเยี่ยมทีมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 3 รับผิดชอบโดยทีมรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ซึ่งถูกมอบหมายให้สามารถรับได้ทั้งผู้ป่วยสีเขียว (ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ไม่มีปัจจัยเสี่ยง) สีเหลือง (มีอาการ หรือ มีปัจจัยเสี่ยง) ไปจนถึงสีส้ม (เริ่มมีปอดอักเสบ) และสีแดง (ปอดอักเสบมากขึ้นหรือมีปอดอักเสบขั้นต้นแต่มีปัจจัยเสี่ยง) ถ้าจำเป็น วันนี้ได้ไปเยี่ยมหน้างานจริง
ปรากฏว่าไม่ถึงสัปดาห์มีผู้ป่วยเข้ามาแล้วราว 150 คน ไม่ถึง 20% ที่เป็นสีเขียว แถมเกือบ 10% ก็เป็นสีส้มและสีแดง ทำให้อัตรากำลังแพทย์และพยาบาลที่จัดไว้ทำงานกันหนักมากเพราะต้องดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบใกล้ชิดเหมือนอยู่ในรพ.หลัก และต้องส่งต่อผู้ป่วยกลับเข้ารพ.หลักวันละหลายๆ คน ซึ่งทางศิริราชก็ต้องคอยช่วยแบ่งเบาภาระจากเจริญกรุงมาบ้างเพื่อไม่ให้หนักหนาเกินการณ์
นี่ช่วยเน้นย้ำอีกครั้งว่าตอนนี้สิ่งที่ขาดแคลนคือ เตียงระดับ 2 ในรพ.หลักที่ดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดได้ทุกระดับความรุนแรง ส่วนเตียงระดับ 3 หรือไอซียูโควิดที่ใช้ดูแลผู้ป่วยวิกฤต เราไม่สามารถเพิ่มอีกได้มากนักเพราะใช้ทรัพยากรบุคคลเยอะมาก ทำได้เพียงใช้ที่มีอยู่ให้คุ้มค่าหมุนเวียนกับเตียงระดับ 2 ให้ได้เร็ว โดยใช้อาวุธสำคัญ “ไฮโฟลว์” (เครื่องให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง) ช่วย
ส่วนการตั้งรพ.สนามเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเขียวหรือสีเหลืองอ่อนก็ต้องเตรียมไว้ให้พอกับผู้ป่วยทั้งที่เติมจากชุมชนและที่ระบายออกจากรพ.หลักเมื่ออาการทุเลา แต่ยืนยันตรงนี้ว่า รพ.สนามไม่ปลอดภัยกับการดูแลผู้ป่วยสีเหลืองแก่ สีส้ม และสีแดง
#เซฟกรุงเทพจากโควิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :