โควิดวันนี้ เปิดรายชื่อ 17 จังหวัด ไม่พบติดเชื้อรายใหม่

วันที่ 11 พ.ค.64 เวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,919 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,318 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 584 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย 

17 จังหวัดไม่พบติดเชื้อรายใหม่

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เผยว่า จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มี 17 จังหวัด ซึ่งที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้ชื่นชม และให้กำลังใจผู้ที่ทำงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดย 17 จังหวัดดังกล่าว ประกอบด้วย 

จังหวัดชัยนาท แพร่ อุตรดิตถ์ หนองคาย อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุทัยธานี สตูล พัทลุง ลำพูน ศรีสะเกษ นครพนม ตราด สกลนคร และเลย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานคร 855 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 20,429 ราย 2.ปทุมธานี 160 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 1,448 ราย 3.นนทบุรี 141 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 3,769 ราย 4.จันทบุรี 89 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 530 ราย 5.ชลบุรี 73 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 3,432 ราย 6.สมุทรปราการ 70 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 3,310 ราย 7.ระนอง 44 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 516 ราย 8.สุราษฎร์ธานี 42 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 1,203 ราย 9.นครราชสีมา 38 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 725 ราย และ 10.สมุทรสาคร 35 ราย สะสม(1 เม.ย.-11 พ.ค.) 1,591 ราย

“คนที่อยู่ในจังหวัดที่ติด 10 อันดับ ถ้าช่วยกันควบคุมโรค จะช่วยให้การติดเชื้อระดับประเทศลดลง"โฆษก ศบค.กล่าว

"กทม.-ปริมณฑล"ติดเชื้อรวมกันวันนี้ 1,281 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กทม.และปริมณฑล ติดเชื้อรวมกันวันนี้ 1,281 ราย จังหวัดอื่นๆ รวมกัน 621 ราย ส่วนอาการหนักปอดอักเสบ กทม. มีผู้ป่วยหนักจาก 476 ราย เป็น 507 ราย 512 ราย และ 527 ราย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุผลที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องไปดู โรงพยาบาลบุษราคัม ที่ อิมแพค เมืองทองธานี เพราะความเข้มข้นผู้ป่วยอาการหนักต้องใช้พื้นที่เตียง บุคลากร และไฮเทคโนโลยี เครื่อช่วยหายใจต่างๆ เยอะขึ้นด้วย ซึ่ง กทม.และปริมณฑลการเสียชีวิตยังเยอะ

ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นกำหนดเป้าหมายในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่ 13 เขต โดยพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกล่าสุดเมื่อวานนี้ ได้แก่ คลองเขต, ป้อมปราบศัตรูพ่าย, จตุจักร, ปทุมวัน, ดินแดง, วัฒนา, ลาดพร้าว, ราชเทวี, พระนคร, สวนหลวง, ดุสิต, สัมพันธวงศ์ และ สาทร เพื่อเร่งค้นหาผู้ป่วยออกจากชุมชนมาเข้ารับการรักษาโดยเร็ว

"สถานการณ์การแพร่ระบาดทรงตัว และกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งหากเปรียบเทียบกับระลอกก่อนหน้านี้ที่กินเวลาตั้งแต่เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ แต่ระลอกเดือนเมษายนผ่านมาเดือนครึ่งแล้วยอดผู้ติดเชื้อรายใหญ่ยังสูงกว่าเดิมมาก ซึ่งอยากขอความร่วมมือให้งดเรื่องการเล่นพนันที่เป็นปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามาจนทำให้การแพร่ระบาดต้องขยายเวลาออกไป" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

แย้มอาจมีข่าวดีเรื่องการฉีดวัคซีน

นพ.ทวีศิลป์ ตอบคำถามเรื่อง การปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิดให้กลุ่มเสี่ยง 16 ล้านคน โดยระบุว่า  มาตรการเรื่องที่จะให้ผู้ลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนโควิด ปัจจุบันอยู่ใน 2 กลุ่ม แต่ตอนนี้มีลงทะเบียนแล้วประมาณ 1.6 ล้านคน จากยอดเต็ม 16 ล้านคน ห่างไกลประมาณ 10 เท่า ฉะนั้นกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะไปพิจารณาการขยายกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งข่าวดีอาจจะมาเร็วๆ นี้ อาจทำให้ผู้ที่อยากได้รับวัคซีนแล้วไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 โรคเสี่ยง จะมีโอกาสเร็วๆ นี้ โปรดรอติดตามข้อมูลต่อไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการร้านอาหารที่ประสบความเดือดร้อน ถึงการผ่อนคลายมาตรการหลังครบ 14 วันว่า หากสถานการณ์ดีขึ้นจะมีมาตรการผ่อนคลายอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องมีวิธีการในการดูแลป้องกันในการดูแลตัวเอง และดูแลไม่ให้ลูกค้าติดเชื้อด้วย ดังนั้นขอให้สมาคมผู้ประกอบการและสาธารณสุข ไปร่วมกันพิจารณาในส่วนนี้ ส่วนจะจัดสรรการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกอบการร้านได้หรือไม่นั้น ขณะนี้ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปพิจารณาว่าจะสามารถแบ่งบางส่วนให้กลุ่มผู้ประกอบการได้หรือไม่ เนื่องจากจะได้ช่วยให้คนทำร้านอาหาร ผู้ประกอบการร้านอาหารปลอดภัย

"กทม.และปริมณฑล"ติดเชื้อรวมกันวันนี้ 1,281 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กทม.และปริมณฑล ติดเชื้อรวมกันวันนี้ 1,281 ราย จังหวัดอื่นๆ รวมกัน 621 ราย ส่วนอาการหนักปอดอักเสบ กทม. มีผู้ป่วยหนักจาก 476 ราย เป็น 507 ราย 512 ราย และ 527 ราย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุผลที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องไปดู โรงพยาบาลบุษราคัม ที่ อิมแพค เมืองทองธานี

มีการนำเสนอชุดข้อมูลในเชิงบริหาร พบว่า มี 13 เขตในกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องลงไปทำงานเข้มข้น ได้แก่ คลองเตย ป้อมปราบศัตรูพ่าย จตุจักร ปทุมวัน ดินแดง วัฒนา ลาดพร้าว ราชเทวี พระนคร สวนหลวง ดุสิต สัมพันธวงศ์ และสาทร อย่างเมื่อวาน (10 พ.ค.) การค้นหาเชิงรุกในชุมชนสูงสุด คือ คลองเตย 39 ราย สะสม 165 ราย ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 1,877 ราย เสี่ยงต่ำ 3 หมื่นราย นำมาตรวจแล้ว 2.2 หมื่นราย วันนี้จะตรวจเพิ่มขึ้น 2,000 ราย อย่างที่เจอ 2 หลัก เช่น ตลาดห้วยขวางที่ดินแดงเมื่อวานนี้ เจอ 99 ราย ปากคลองตลาดเขตพระนคร 81 ราย และตลาดชุมชนแออัดสี่แยกมหานาค เขตดุสิต 75 ราย ตัวเลขเหล่านี้จะนำมาบริหารสถานการณ์ ต้องรีบนำคนเจ็บป่วยออกจากชุมชนมาสู่การรักษาโดยเร็ว

ใช้แลปขั้นสูงสุดตรวจเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการเฝ้าระวังสายพันธุ์อินเดียว่า การเฝ้าระวังสูงสุดของเชื้อกลายพันธุ์ของอินเดียและการเดินทางกลับบของข้าราชการสถานทูตไทยในอินเดียติดโควิด 3 รายว่า ทางศบค.ให้ความสำคัญ และให้มอนิเตอร์สายพันธุ์อินเดีย มีการตรวจเป็นระยะ ๆ โดยมีการตรวจด้วยระบบจีโน่ ใช้แลปขั้นสูงสุด เป็นการร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งจะช่วยตรวจและมอนิเตอร์ให้ดู ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ศบค.ได้เปลี่ยนความกังวลมาเป็นกระบวนการตรวจสอบที่เข้มขึ้นแล้ว ส่วนข้าราชการสถานทูตไทยในอินเดียจะเดินทางกลับมา ถือว่าเป็นสิทธิของคนไทยที่จะกลับมา และเราจะต้องดูแล

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเชื้อโควิดไม่ว่าสายพันธุ์ใด จะต้องมีการตรวจต่อ การเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เราก็ยังรู้และสามารถดูแลได้ แต่สิ่งที่เราไม่ทราบ คือ หลบหนีเข้ามาช่องทางธรรมชาติ ซึ่งล่าสุดพบว่ามีการลักลอบเข้ามาที่พรมแดนจังหวัดกาญจนบุรี และจับได้หลาย 10 คน ตรงนี้ยังน่าห่วง เนื่องจากเราจะไม่สามารถควบคุมโรคได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อัพเดท ยอดโควิดวันนี้ รายใหม่ 1,919 อาการหนัก 1,207 เสียชีวิตเพิ่ม 31 คน
• โควิดวันนี้ เปิดรายละเอียดผู้เสียชีวิต 31 ราย พบอายุน้อยสุดแค่ 34 ปี
• รัฐเล็งฉีดวัคซีนโควิดให้แรงงานในระบบประกันสังคม 16 ล้านคน
• ยอดโควิดทั่วโลก 11 พ.ค.64 ติดเชื้อเพิ่ม 588,438 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 9,805 ราย
• WHO แถลงจัดชั้น “โควิดสายพันธุ์อินเดีย” เป็นภัยคุกคามสุขภาพระดับโลกแล้ว