วันที่ 11 พ.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ประเทศไทยไทยจะเป็นศูนย์กลางผลิต “วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)” ของภูมิภาคอาเซียน
โดยนายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องนี้ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงแผนการจัดหาวัคซีนโควิดว่า ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้ นั่นคือวัคซีน ที่ผ่านมาเราได้เร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงผู้สูงอายุด้วย ซึ่งบางคนอาจจะอยู่ที่บ้านไม่สามารถมาฉีดได้
ก็ได้เร่งรัดทุกอย่าง รวมทั้งพื้นที่เศรษฐกิจ วันนี้รวมฉีดไปแล้วเกือบ 2 ล้านโดส ตามวัคซีนที่เรามีอยู่ในเดือนนี้และในช่วงที่ผ่านมา โดยระดมฉีดวันละหลายหมื่นโดส และจากมาตรการจัดหาวัคซีนฉุกเฉินของรัฐบาล บางทีเราต้องค่อยๆสร้างความเข้าใจ เพราะบางทีมันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาว่ากว่าจะตกลงได้บางทีก็มาทีละ 5 แสนโดส
บางทีขอต่อเขาเพิ่มเป็นล้านโดส เป็น 2-2.5 ล้านโดส เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าน่าจะชัดเจนว่าเดือนพ.ค.ได้เพิ่มอีก 3.5 ล้านโดส และได้ความร่วมมือจากภาคเอกชนในการเพิ่มศักยภาพในการฉีดได้อีกมาก
ขอย้ำว่า รัฐสามารถจัดหาวัคซีนให้กับประชากรในประเทศได้ทุกคนอย่างแน่นอน และจะไม่หยุดในการจัดหาและสำรองใช้เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน
“ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่เป็นศูนย์กลางในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนกาซึ่งผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ได้มาตรฐานสูง ผ่านการรับรองคุณภาพจากทั่วโลก และจะสร้างความมั่นคงยั่งยืน ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ในระยะยาว เพื่อสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและการแข่งขันให้กับ ประเทศชาติในอนาคตอีกด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :