หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงในนาม คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) เห็นชอบแนวทางจัดหาวัคซีนโควิด 19 ในปี 2565 รองรับนโยบายเพิ่มวัคซีนเป็น 150 ล้านโดส และเร่งเจรจาผู้ผลิตที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ครอบคลุมไวรัสกลายพันธุ์ พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนปูพรมทั้งรูปแบบนัดและเดินเข้ามา รับวัคซีนแบบ "วอล์คอิน" (Walk In ซึ่งไม่ต้องนัดล่วงหน้า) ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเร่งขยายช่องทางการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนได้จำนวนมากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสรับเชื้อ ลดความรุนแรงของอาการและลดการเสียชีวิตนั้น
ภาครัฐเห็นชอบที่จะ ลดอุปสรรคการเข้าถึงวัคซีน จึงดำริให้มีการเข้าถึงการฉีดวัคซีนโควิดรูปแบบต่าง ๆ ทั้งรูปแบบการนัดผ่านแอปฯหมอพร้อม นัดผ่านองค์กรต่างๆ ที่นำบุคลากรมาฉีดเป็นกลุ่ม และ เปิดช่องทางใหม่ให้ประชาชนเดินเข้ามารับการฉีดวัคซีนวอล์คอิน ณ จุดให้บริการโดยไม่ต้องนัด ทั่วประเทศ โดยจังหวัดไหนพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจังหวัดแรก ๆ ที่ประกาศแนวทางปฏิบัติสำหรับการฉีดวัคซีนวอล์คอินอย่างชัดเจน โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง 3 แนวทางตามสัดส่วน 30 : 50 : 20
โดยนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ อธิบายว่า จังหวัดเชียงใหม่จะเริ่มฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม และ 3 แนวทาง ตามสัดส่วน 30 : 50 : 20 หมายถึง
ในขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีสถานที่ฉีดวัคซีนทั้งหมด 41 แห่ง เป็นโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลประจำอำเภอ สนามกีฬาสมโภช 700 ปี และศูนย์การค้าที่ได้อนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่
ทั้งนี้ ได้มีภาคเอกชน องค์กรต่าง ๆ จำนวนมาก ประสานเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความจำนงขอรับการสนับสนุนฉีดวัคซีน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการจัดสรรวัคซีนให้ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนทั้งหมด 1.6 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง จำนวน 559,304 คน และกลุ่มประชาชนทั่วไปอายุ 18-59 ปี จำนวน 953,562 คน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนแบบวอล์คอินว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยอยากฉีดวัคซีน ทางรัฐก็อยากอำนวยความสะดวกให้ จึงได้จัดบริการรูปแบบ Walk In สำหรับคนที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมได้ และคนที่มีความจำเป็น เช่น คนขับแท็กซี่ คนขับรถโดยสารสาธารณะ ฯลฯ ที่เขาอยากฉีด ส่วนการให้บริการนั้น ทางแต่ละจังหวัดก็จะกำหนดพื้นที่ เช่น กทม. ประกาศจุดฉีดวัคซีน เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดจะเป็นไปตามที่แต่ละจังหวัดไปดำเนินการวางแผน และออกประกาศมา
13 พฤษภาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากความเห็นชอบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ให้จัดระบบให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แบบ Walk-in อำนวยความสะดวกประชาชนให้เข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เร็วที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 หรือทันทีที่พร้อม โดยจัดสัดส่วนการให้บริการ 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่มาจากระบบนัดหมายผ่านไลน์และแอปพลิเคชัน หมอพร้อม ร้อยละ 30
2. กลุ่มนัดหมายจากโรงพยาบาล หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และโรคอ้วน ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 35 หรือน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัม ร้อยละ 50
3. กลุ่มที่ Walk in เดินเข้ามาขอรับบริการ ร้อยละ 20
ทั้งนี้ สามารถปรับสัดส่วนบริการได้ตามความเหมาะสมและสถานการณ์จริงหน้างาน รวมทั้งให้จังหวัดเตรียมจัดระบบเช็คจำนวนประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแบบ real time และระบุจำนวนสำหรับกลุ่ม Walk in ในแต่ละจุดฉีดเพื่อลดความแออัด หากคิวเต็มแต่ละแห่งจะออกใบนัดให้มารับบริการในวันถัดไป
“ขอให้ประชาชนนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านไลน์ “หมอพร้อม” ซึ่งสะดวกและได้รับบริการตรงวันที่นัดหมาย ไม่ไปแออัดที่จุดฉีด ขอให้ทยอยไปรับการฉีดเนื่องจากวัคซีนมีเพียงพอ” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง