(18 พ.ค. 64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุมประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 33/2564 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบัน ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน รวมถึงผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป รวมทั้งเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ประชุมศบค.กทม.จึงเห็นชอบเลื่อนการเปิดภาคเรียน ที่ 1/2564 เป็นวันที่ 14 มิ.ย. 64 โดยระหว่างรอเปิดภาคเรียนจะเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้ครบถ้วนโดยเร็ว ทั้งนี้ให้สำนักงานเขตตรวจแนะนำโรงเรียนในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ให้สำนักงานเขตต่างๆ จัดเจ้าหน้าที่ ตรวจแนะนำผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งได้รับการผ่อนปรนให้สามารถเปิดบริการให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. โดยขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เคร่งครัด โดยห้ามมิให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านโดยเด็ดขาด ให้ผู้ประกอบการหมั่นทำความสะอาดพื้นร้านและอุปกรณ์ภายในร้านเป็นประจำสม่ำเสมอ รวมทั้งให้ตรวจเช็คอุณหภูมิพนักงานก่อนเป็นประจำ สำหรับผู้ใช้บริการให้ตรวจวัดอุณหภูมิและแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ หรือหมอชนะและเข้าใช้บริการในร้าน และให้รักษาระยะห่างระหว่างผู้ใช้บริการให้พ้นระยะการแพร่เชื้อระหว่างกัน ทั้งนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะจัดเจ้าหน้าที่ตรวจแนะนำร้านอาหารเพื่อแบ่งเบาภารกิจของกรุงเทพมหานครทางหนึ่ง
นอกจากนี้ ให้สำนักงานเขตตรวจแนะนำที่พักคนงานก่อนสร้างในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะที่พักคนงานที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้สำนักงานเขตประสานศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ให้คำแนะนำมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับบริการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในชุมชนและกรุงเทพมหานครต่อไป