สัญญาณชัด ประกันสังคม ม.33 เตรียม "ฉีดวัคซีนโควิด" เริ่มต้นมิ.ย.นี้

19 พ.ค. 2564 | 19:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ค. 2564 | 03:18 น.

นายกรัฐมนตรี สั่งสัญญาณนโยบาย ฉีดวัคซีนโควิด ให้ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม มาตรา33 ชี้เป็นแรงงานที่เป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจ เริ่มต้นเดือน มิ.ย.นี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมาถึงนโยบายในการฉีดวัคซีนโควิด ให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 (ม.33)

นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณชัดว่า "กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เป็นกลุ่มแรงงานที่ความสำคัญกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาชีพต้องสัมผัส ต้องเจอคนจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ

การเตรียมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ประกันตนนี้ จะเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง แรงงาน กระทรวงการคลัง และภาคเอกชน โดยจะพร้อมฉีดตั้งแต่ ต้นเดือน มิ.ย. นี้ครับ

ผมได้กำชับให้ทำการฉีดให้ต่อเนื่อง และรวดเร็วที่สุด เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคบริการ ฟื้นตัวได้โดยเร็ว

แนวทางการกระจายวัคซีน

1. สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ร่วมมือกับภาคเอกชน และ สปสช. ในการดำเนินการ โดยกลุ่มผู้ประกันตนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง จะให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการเนื่องจากกลุ่มดังกล่าวได้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมไปแล้ว

2. สำนักงานประกันสังคมจะประสานกับนายจ้างของแต่ละบริษัทให้ส่งข้อมูลลูกจ้างที่จะฉีดวัคซีน เพื่อทำการจัดสรรเวลาการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตน โดยในระยะแรกจะเน้นการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกันตนใน กทม. และในระยะถัดไปจะเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนใน 9 จังหวัดเศรษฐกิจ จากนั้นจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนในจังหวัดที่เหลือต่อไป ที่สำคัญคือ จำนวนวัคซีนต้องเพียงพอกับจำนวนคน หากไม่ได้ทั้งหมดก็จะจัดสรรทะยอยให้ตามลำดับความเร่งด่วน

3. การฉีดวัคซีนใน กทม. นั้น จะมีจุดฉีดวัคซีน 45 แห่ง และจุดฉีดวัคซีนใน 9 จังหวัดเศรษฐกิจอีก 22 แห่ง

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามแผน “วาระแห่งชาติ” เรื่องการฉีดวัคซีน ผู้ประกันตนทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ที่จะทั้งป้องกันโรคให้กับตนเอง คนรอบข้าง และผู้เข้ามารับบริการ เพื่อให้กิจการและเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ครับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :