SMEs เฮ!  ค้าปลีกผนึกแบงก์ ปล่อยกู้ซอฟต์โลนกว่า 5,000 ล้าน

27 พ.ค. 2564 | 04:40 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2564 | 11:51 น.

สมาคมค้าปลีกผนึกแบงก์ ปล่อยสินเชื่ออุ้ม SMEs ฝ่าวิกฤติโควิด เฟสแรกกว่า 5,000 ล้านบาท

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้ประชุมกับสมาชิกสมาคมและภาคีเครือข่ายกว่า 70 บริษัท ซึ่งมีผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในห่วงโซ่การค้ามากกว่า 100,000 ราย นับเป็น 40% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกทั้งประเทศ หรือ คิดเป็น 12% ของ GDP

ร่วมกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่   5 รายในเฟสแรก  คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เพื่อเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึง แหล่งเงินทุน (Soft Loan) ผ่าน Digital Factoring Platform

โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย เพื่อช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร ได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤติโควิด-19 ที่ SMEs ทั่วประเทศ ขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ญนน์ โภคทรัพย์

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้เริ่มโครงการแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง เซ็นทรัล รีเทล (CRC) และ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยการนำข้อมูลการทำธุรกิจระหว่างบริษัทและซัพพลายเออร์หรือคู่ค้าเบื้องต้นกว่า 4,000 ราย ของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย ผ่านแพลตฟอร์มและได้อนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกให้กับ SME มากกว่า 1,000 ราย ในวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท

โดยกว่า 70% ของ SME เหล่านี้ยังไม่เคยเข้าถึงแหล่งเงินทุน Soft Loan มาก่อน แพลตฟอร์มนี้ทำให้ธนาคารฯ สามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น บนต้นทุนและความเสี่ยง   ที่ต่ำ และ SME สามารถชำระหนี้แบบอัตโนมัติผ่านช่องทางดิจิทัล เพราะฉะนั้น ธนาคารจึงสามารถเสนอสินเชื่อวงเงินที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ  

ความสำเร็จของโครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากภาครัฐ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะนำต้นแบบนี้ขยายไปสู่ SME มากกว่า 100,000 ราย ทั่วประเทศ ของสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและภาคีเครือข่ายภายในสิ้นปี 2564 และในเฟสต่อไป จะขยายผลไปถึงสมาชิกของทุกสมาคมฯ

SMEs เฮ!  ค้าปลีกผนึกแบงก์ ปล่อยกู้ซอฟต์โลนกว่า 5,000 ล้าน

ตั้งแต่ สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับการร่วมมืออย่างเต็มที่จากธนาคารพาณิชย์ของรัฐและเอกชน เพื่อช่วยให้  SME ไทยสามารถพลิกฟื้น เสริมสภาพคล่อง และได้แต้มต่อในการดำเนินธุรกิจ

“การผนึกกำลังสำคัญของทุกภาคส่วนในครั้งนี้  เราทุกคนมีความตั้งใจและทำอย่างจริงใจเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงและรวดเร็วบนจุดมุ่งหมายเดียวกัน SME ไทยต้องรอดโดยการช่วยเหลือ SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างง่ายและทั่วถึง และสามารถก้าวพ้นวิกฤตโควิดในครั้งนี้ไปได้ด้วยกันโดยเร็วที่สุด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :