‘เปิดเทอม’ อนามัยโพล ชี้พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ต้องการให้ฉีดวัคซีนโควิดครอบคลุมก่อน

31 พ.ค. 2564 | 04:05 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2564 | 11:11 น.

‘เปิดเทอม’ อนามัยโพล ชี้พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ต้องการให้ครู นักเรียน ฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมก่อน

จากกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ ออกประกาศเลื่อน"เปิดเทอม" เป็น 14มิ.ย.64 อย่างเป็นทางการ จากเดิมวันที่ 1 มิ.ย.64

ต่อประเด็นเรื่องการเปิดเทอม นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ได้เผยผลสำรวจเกี่ยวกับการ"เปิดเทอม" โดยระบุว่า จากผลการสำรวจอนามัยโพลประเด็น “เห็นด้วยที่จะเปิดเรียนหรือไม่” พบว่า ภาพรวมประเทศเห็นด้วย ร้อยละ 40.5 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 54.8  เมื่อแบ่งออกเป็นรายภาค พบว่า 

  • ภาคกลาง ไม่รวมกรุงเทพมหานคร เห็นด้วย ร้อยละ 33.1 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 62.1  
  • ภาคใต้ เห็นด้วย ร้อยละ 30.2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 65.9 
  • ภาคเหนือ เห็นด้วย ร้อยละ 45.1 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 49.9  
  • ภาคอีสาน เห็นด้วย ร้อยละ 66.2  ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 29.6

เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยในการเปิดเทอมมากที่สุด ในทุกพื้นที่ยกเว้นภาคอีสาน คือ เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม ส่วนภาคอีสานจัดอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดต่ำ และเป็นพื้นที่เดียวที่ผลสำรวจพบว่า เห็นด้วยที่จะให้เปิดเรียนสูงถึงร้อยละ 66.2 ซึ่งเหตุผลหลักคือ เพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลของผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการเปิดเทอมในภาพรวมของประเทศพบว่า ร้อยละ 15.3 ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ขณะที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดหนักในตอนนี้ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีน ร้อยละ 17.11 ภาคกลาง ร้อยละ 14.28 ภาคใต้ ร้อยละ 28.43 ภาคเหนือ ร้อยละ 23.75 และภาคอีสาน ร้อยละ 9.28 

ทั้งนี้ สถานศึกษาทุกแห่งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อนเปิดภาคเรียน(เปิดเทอม)อย่างเคร่งครัดด้วยการประเมินตนเอง ผ่านระบบ Thai Stop COVID plus ซึ่งจากข้อมูลระหว่างวันที่ 24 เมษายน -27 พฤษภาคม 2564  พบว่ามีการประเมินตนเองแล้ว จำนวน 38,264 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 98.3 ส่วนนักเรียน นักศึกษา ครู บุคลากร และผู้ปกครอง ประเมินความเสี่ยงผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” และสำหรับสถานศึกษาให้จัดสภาพแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา 44 ข้อ ใน 6 มิติ ได้แก่

1.ความปลอดภัยจากการลดแพร่เชื้อโรค 2.การเรียนรู้  3. การครอบคลุมเด็กด้อยโอกาส 4.สวัสดิภาพและการคุ้มครอง 5.นโยบาย และ 6.การบริหารและการเงิน