ปิดไตรมาส 1/68 SET Index ร่วง 240 จุดทุนต่างชาติไหลออก 3.8 หมื่นล้าน

สถิติตลาดหุ้นไทยไตรมาส 1/2568 นับตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายวันแรก 2 มกราคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 28 มีนาคม 2568 หรือคิดเป็นกว่า 61 วันทำการ พบว่า มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 2,577,654.34 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลค่าซื้อขายที่ประมาณ 42,256.63 ล้านบาทต่อวัน

หากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนมูลค่าการซื้อขายลดลง 183,096.24 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 6.63% จากไตรมาส 1/2567 ที่ระดับ 2,760,750.58 ล้านบาท และหากเทียบมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 1,564.81 ล้านบาท หรือ 3.57% จากไตรมาส 1/2567 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 43,821.44 ล้านบาทต่อวัน

ทั้งนี้ SET Index ปิดตลาด ณ วันที่ 31 มี.ค.68 ที่ระดับ 1,158.09 จุด ลดลง 239.84 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 17.15% จากดัชนีเปิดตลาดซื้อขายวันแรก 2 ม.ค. ที่ระดับ 1,397.93 จุด ต้องยอมรับว่าไตรมาสแรกปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม

และโดยเฉพาะปัจจัยภายในประเทศ ทั้งในแง่มุมของเศรษฐกิจ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และโดยเฉพาะในแง่ของศรัทธาความเชื่อมั่นที่เหือดหายไป แม้ว่าที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพียรพยายามกู้คืนความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนว่าจะยังไม่เป็นผลเท่าที่ควร

โดยหากแบ่งมูลค่าการซื้อขายตามประเภทนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบัน มีสถานะขายสุทธิ รวม 50,849.12 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนภายในประเทศเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสถานะซื้อสุทธิ 50,849.13 ล้านบาท

• นักลงทุนต่างประเทศ มีสถานะขายสุทธิ 38,379.82 ล้านบาท ลดลง 30,946.38 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง -44.63% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่สูงถึง 69,326.20 ล้านบาท
• บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ มีสถานะขายสุทธิ 8,750.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,917.72 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 202.49% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 2,892.75 ล้านบาท
• นักลงทุนสถาบัน มีสถานะขายสุทธิ 3,718.83 ล้านบาท ลดลง 2,453.99 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 39.75% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 6,172.82 ล้านบาท
• ขณะที่นักลงทุนภายในประเทศ มีสถานะซื้อสุทธิ 50,849.13 ล้านบาท ลดลง 27,542.65 ล้านบาท หรือเปลี่ยนแปลง 35.13% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 78,391.78 ล้านบาท

สำหรับ 10 หุ้นมูลค่าซื้อขายตามราคาตลาด (Marker Cap) สูงสุดในช่วงไตรมาส 1/2568 (ณ วันที่ 28 มี.ค.68)ได้แก่

• PTT ที่ระดับ 914,015.88 ล้านบาท
• DELTA ที่ระดับ 860,693.31 ล้านบาท
• ADVANC ที่ระดับ 811,959.26 ล้านบาท
• GULFI ที่ระดับ 583,724.21 ล้านบาท
• AOT ที่ระดับ 549,999.45 ล้านบาท
• PTTEP ที่ระดับ 464,488.29 ล้านบาท
• CPALL ที่ระดับ 449,155.07 ล้านบาท
• SCB ที่ระดับ 422,571.96 ล้านบาท
• TRUE ที่ระดับ 414,625.21 ล้านบาท
• KBANK ที่ระดับ 388,569.73 ล้านบาท