รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
โควิด 19 เมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่สเปน และ อหิวาตกโรคในรัชกาลที่ 2
ยง ภู่วรวรรณ
ประเทศไทยมีโรคระบาดใหญ่ เป็นรอบๆ 100 ปี
ในปี พศ 2363 โรคอหิวาตกโรคได้เกิดการระบาดใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ 2 ที่มีการบันทึก (กรมพระยาดำรงราชานุภาพ) ไว้ว่า ห่าลงปีมะโรง คาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 30,000 คน ซึ่งขณะนั้นประชากรประเทศไทยก็ไม่น่าจะมาก น่าจะอยู่ที่ 3 - 4 ล้านคน (คาดการณ์เอง) อัตราการเสียชีวิตก็น่าจะอยู่ที่ 1%
อีก 100 ปีต่อมา
ในปี พศ. 2461 ไข้หวัดใหญ่สเปน เข้าสู่ประเทศไทยทางภาคใต้ในเดือนตุลาคมปีพศ 2461 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เราได้ส่งทหารไปร่วมรบกับกองกำลังฝรั่งเศสและอังกฤษ
ในขณะนั้นประเทศไทยปกครองแบบมี 17 มณฑล ( 73 จังหวัด) มีประชากรทั้งสิ้น 8.4 ล้านคน ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ทั้งสิ้น 2.3 ล้านคน เสียชีวิต 80,000 คน หรือคิดราว 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากร นับเป็นการเสียชีวิตที่ไม่น้อยจากโรคระบาด โรคสงบในเดือนมีนาคม 2462 (ราชกิจจานุเบกษา ฉบับที่ 136 27 กรกฎาคม พ. ศ. 2462)
100 ปีต่อมา
ปี พศ 2563 เราก็ต้องเผชิญกับโรคระบาดอีก คือโรค โควิด 19 เข้าสู่ประเทศไทยในเดือนมกราคม จากหญิงท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากนั้นเราก็พบการระบาดมาจนถึงปัจจุบันเป็น 3 รอบ และเหตุการณ์ยาวมาถึง 1 ปีครึ่งแล้ว ยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติ เราได้พยายาม ยื้อให้มีการเสียชีวิตน้อยที่สุด และรอ วัคซีนมาทดแทนการติดเชื้อ เพื่อให้เปรียบเสมือนเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ หรือมีอาการให้น้อยที่สุด เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทาน เพื่อให้พ้นจากการเจ็บป่วยของโรคดังกล่าว ถ้าเราปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างเมื่อ 100 หรือ 200 ปีที่แล้วที่ผ่านมา และถ้ามีการเสียชีวิตประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้ก็จะมีการสูญเสียถึง 7 แสนคน และโรคน่าจะสงบใน 1 ปี
คือคนส่วนใหญ่ จะติดเชื้อ และมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ สภาพดังกล่าวเราคงยอมรับไม่ได้ เราจึงมีแนวทางปฏิบัติทุกวิถีทางที่จะลดความรุนแรงของโรคลงให้ได้ เหตุการณ์จึงได้ยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้ ทางออกในวันนี้มีอยู่ทางเดียวคือต้องทำให้ทุกคนมีภูมิต้านทานคล้ายการติดเชื้อ ด้วยวัคซีน
ถึงเวลาแล้วที่ประชากรไทยทุกคน ควรจะได้รับวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานเป็นส่วนใหญ่เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อลดความรุนแรงของโรค และอัตราตาย ในที่สุด โรคก็จะสงบ ถ้าคนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน หรือการติดเชื้อ
#หมอยง
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 (Covid-19) ใปประเทศจากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 28 ก.พ.-1 มิ.ย. 64 พบว่า มีการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 3,753,718 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1 สะสมอยู่ที่จำนวน 2,591,372 ราย และเข็มที่ 2 สะสมอยู่ที่จำนวน 1,162,346 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :