วันที่ 7 มิ.ย. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยตอนหนึ่งถึงการจัดหาวัคซีนโควิดยี่ห้อ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(Johnson & Johnson)” ว่าได้ลงนามในสัญญาแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่สมัครใจมาฉีดวัคซีนโควิดกันมากขึ้น ยืนยันฉีดพร้อมกันทั้งประเทศและทุกจังหวัดทยอยมากน้อยตามสถานการณ์ รวมทั้งตามคลัสเตอร์ต่างๆ และวันนี้ดูด้านเศรษฐกิจว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมีรายได้และมีอาชีพ ยืนยันทยอยฉีดทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตรงไหนมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ ก็มีการสำรองวัคซีนไว้ เพื่อปรับตามสถานการณ์ รวมทั้งวัคซีนที่ติดต่อไว้แล้วทั้งแอสตราเซนเนก้าและซิโนแวค ก็จะทยอยส่งเข้ามา
“ขณะเดียวกัน ก็ได้ลงนามกับบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) เพื่อนำวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นรายละเอียดที่จะต้องตกลงกับบริษัทผู้ผลิต ว่าจะส่งมอบได้จำนวนเท่าไหร่และช่วงไหน” นายกฯ กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณากระจายวัคซีนไปยังทุกพื้นที่ โดยพิจารณาจากข้อมูล สถานการณ์ความจำเป็นและประมาณวัคซีนที่มีอยู่ในแต่ละเดือน และขออย่าเอาตัวเลขมาทำให้สับสนอลม่านไปหมด ย้ำว่าเป็นไปตามแผนหลักคือประเทศไทยเริ่มมิ.ย.เป็นต้นไป
อะไรก็ตามที่รัฐบาลให้ข้อมูลข่าวสาร บางครั้งไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง จึงขอให้ฟังทางการ และขอให้เชื่อมั่นนายกฯ ยืนยันว่าทำเต็มที่ในการให้ประชาชนได้รับวัคซีนให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและฟังข้อมูล ข่าวสารที่มีประโยชน์และมีภูมิต้านทาน ว่าจะเชื่อหรือโพสต์อะไรก็แล้วแต่
ซึ่งประเทศไทยมีโอกาสมากกว่าหลายประเทศและฟื้นตัวได้เร็วพอสมควร จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน สิ่งสำคัญทำอย่างไรวันนี้ลดการแพร่ระบาดให้ได้ เพื่อควบคุมเป็นพื้นที่และเป็นกลุ่มให้ได้ วันนี้ทุกคนช่วยกันทำประเทศไทยปลอดภัย
ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละ ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย และขอบคุณประชาชนที่สมัครใจมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ขออย่าประมาท ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยัน นับจากวันที่ 7 มิถุนายน นี้ จะมีการฉีดวัคซีนปูพรมพร้อมกันทุกจังหวัด ทั่วประเทศ โดยจะปรับปริมาณวัคซีนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่ และครอบคลุมบุคลากรทุกกลุ่ม รวมถึงบุคลากรครู ผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
นายกรัฐมนตรียังยืนยันอีกด้วยว่า รัฐบาลจะทยอยส่งวัคซีนให้ทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง ณ วันนี้มีสถานที่ให้บริการมากกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการฉีดวัคซีนบางส่วนแล้ว จำนวนประมาณ 4 ล้านคน คาดว่า เดือนมิถุนายนนี้จะสามารถฉีดเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนวัคซีนที่มีเข้ามา
อย่างไรก็ตามหากในพื้นที่ใดที่มีคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นรัฐบาลก็มีการเตรียมวัคซีนรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว ขณะนี้มีทั้งวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ที่กำลังทยอยเข้ามาซึ่งเป็นไปตามแผนและห้วงเวลาที่กำหนด รวมทั้งมีการลงนามสัญญาสั่งจองวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่คาดว่าจะมาอีกประมาณ 25 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนซิโนแวคอีกจำนวน 8 ล้านโดส เพื่อให้ครบ 100 ล้านโดสตามที่กำหนดจากเดิม 61 ล้านโดส
ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบัน ฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 4.2 ล้านโดส และในเดือนมิถุนายนนี้ จะทยอยฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าที่เข้าให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการจัดหาวัคซีนสำรองรองรับตามสถานการณ์ความจำเป็นด้วย
ส่วนการตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ เยี่ยมชมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 พร้อมให้กำลังใจผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกล่าวตอนหนึ่ง ว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับภาคแรงงานและทุกคน เพราะอยู่ในภาคผลิตและแรงงานทุกคนเป็นกำลังสำคัญให้กับบ้านนี้เมืองนี้ ดังนั้นจะหยุดกิจการไม่ได้ เราจึงต้องทำให้ดีที่สุด และรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุด ร่วมกับประชาชนกลุ่มอื่นๆ
โดยดำเนินการหลายช่องทางเพื่อให้เข้าถึงวัคซีน ทั้งหมอพร้อมและในส่วนของกระทรวงแรงงาน อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องมาคิดปรับระบบให้ได้ เพราะมีคนจำนวนมาก อย่างไรก็ตามขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งหมดเป็นงานของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างรายได้ให้ประเทศวันนี้หยุดไม่ได้เราต้องปรับไปเรื่อยๆ
ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้ดำเนินการฉีดได้เลย ฉีดให้เร็วไม่ต้องรอตน เพราะทุกคนรอมานานแล้ว และไม่ต้องกลัวเข็มต้องกลัวโควิดมากกว่า และหลังจากฉีดเข็มแรกแล้วภูมิต้านทานก็ขึ้นมาเยอะ ดีใจกับทุกคนที่ได้ฉีดวันนี้ยืนยันว่ารัฐบาลอยากให้ฉีดทุกคน สำหรับภาคบริการโรงแรมและการให้บริการสาธารณะมีโอกาสเสี่ยงเราได้มีการปรับตามสถานการณ์ และวันนี้อาจมีปัญหาอยู่บ้างค่อยๆจัดระเบียบ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากเลื่อน
“นายกฯ รักทุกคนไม่มีลำเอียง วันนี้ต้องบริหารให้ได้ เห็นใจผู้ว่าฯ แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนักและเสี่ยง และขออย่าเชื่อทุกอย่างเห็น เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขออย่าไปสนใจ เพราะจะทำให้บริหารงานยากขึ้น ซึ่งผมบังคับและห้ามไม่ได้ โดยเฉพาะในโซเชียลจำนวนมาก แต่ก็อย่าไปสนใจมากนักโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงในโซเชียลต่างๆเพราะยิ่งทำให้การบริหารงานนั้นยากขึ้น นายกฯ เป็นกังวลทุกวัน ไม่มีความสุขจะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อพวกเราลำบาก ผมขออย่างเดียวขอให้ทุกคนเชื่อมั่น หากเชื่อมั่นทำได้หมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เคยเปิดเผยข้อมูล Timeline แผนการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย ข้อมูลโดย สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2564
จากข้อมูลพบว่ามีเป้าหมายการจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 50 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร ภายในปี 2564 ผู้ผลิต โดยแแยกเป็นรายยี่ห้อดังนี้
แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส
ซิโนแวค 10-15 ล้านโดส
ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
จอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส
ส่วนยี่ห่อ Moderna SINOPHARM-BEIJING และ Sputnik V สถานะอยู่ระหว่างดำเนินการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :