'กระทรวงพลังงานต้องปรับตัวให้สอดรับกับกระแสดิสรัปทีฟเทคโนโลยี โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการสื่อสาร ทำให้งานต่างๆ ขับเคลื่อนได้ต่อเนื่อง'
“สมภพ พัฒนอริยางกูล” ผู้ช่วยปลัดกระทรวงพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายพลังงานของประเทศกำลังทำแผนพลังงานแห่งชาติ (National Energy Plan) ซึ่งเป็นแผนแม่บทกำหนดทิศทางระยะสั้น 5 ปี ระยะกลาง 10-15 ปี และระยะยาว 20 ปี จะเสร็จกลางปี 2564 เพื่อนำประเทศสู่พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2580 ด้วย 5 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน 2.ลงทุนพลังงานสีเขียว 3.ดำเนินนโยบาย 4D1E เพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคพลังงาน 4.เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน 5.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยี
ทิศทางนโยบายดังกล่าวครอบคลุมการขับเคลื่อนพลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน ใน 5 แผนพลังงาน ได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทน (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) รวมถึงเรื่องของยานยนต์ปรับไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้น ซึ่งขณะนี้เตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะมารองรับการใช้งานของรถอีวี เพื่อตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาดแล้ว
การเดินหน้าสู่เป้าหมายขององค์กร กระทรวงพลังงานต้องปรับตัวให้สอดรับกับกระแสดิสรัปทีฟเทคโนโลยี โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการสื่อสาร ทำให้งานต่างๆ ขับเคลื่อนได้ต่อเนื่อง
ส่วน บริษัท พีทีที เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่นส์ จำกัด(PTTES) “พิชัยรัตน์ จิรานันรัตน์” กรรมการผู้จัดการ เล่าถึงการนำพาองค์กรฝ่าวิกฤติต่างๆ ด้วย Sense of Urgency ที่ถือเป็นทักษะสำคัญที่ผู้นำต้องมี และการสื่อสารต้องชัดเจนถึงทุกคนในองค์กร
“พิชัยรัตน์” เล่าว่า การสื่อสารถึงพนักงาน ต้องสั่งการตามลำดับชั้น แล้วมอบหมายให้ทุกลำดับชั้นปฏิบัติและปรับใช้...ในช่วงวิกฤติ การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญ กลุ่ม ปตท.มีแนวทางบริหารจัดการแบบ PTT Group Way of Conduct ซึ่งแต่ละองค์กรในเครือมีขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานของตัวเอง อย่างในช่วงโควิด -19 PTTES ได้นำการทำงานแบบ Work anytime anywhere มาใช้ โดยมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เป็นเครื่องมือติดตามการทำงาน ทำให้ธุรกิจมีความต่อเนื่อง และยังป้องกันการสูญเสียทางธุรกิจได้อีกด้วย ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นแม้จะต้องทำงานท่ามกลางวิกฤติโควิด -19
กลยุทธ์การเติบโตของ PTTES จะมองการเติบโตที่ล้อกับ ปตท.เพราะการดำเนินงานส่วนใหญ่สนับสนุนการขยายงานของเครือ ปตท.เป็นหลัก และปัจจุบันมีแผนขยายงานออกไปนอกกลุ่ม ปตท.ด้วย แต่ต้องปรับรูปแบบงานให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายร่วมสร้างระบบนิเวศที่ดี เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพขึ้น เดินหน้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามเป้าหมายของรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 16 ฉบับที่ 3,686 วันที่ 10 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564