ลงทะเบียน "ยิ่งใช้ยิ่งได้" รับ E-Voucher สูงสุด 7000 บ. มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

21 มิ.ย. 2564 | 06:50 น.

ลงทะเบียนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รับ E-Voucher สูงสุด 7000 บ. ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขอะไรบ้าง ประชาชนผู้ลงทะเบียนต้องอ่านก่อนกดยินยอม

โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีระยะเวลาโครงการ 1 ก.ค. 2564 – 31 ธ.ค. 2564. ในการใช้สิทธิ์รับ E-Voucher สูงสุด 7000 บาท หลังการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ที่เปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 21 มิถุยายน 2564 เป็นต้นไป 

แต่ทั้งนี้ก่อนการลงทะเบียน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com จะมีส่วนที่เรียกว่า "หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วม" ซึ่งจะปรากฏขึ้นมาให้อ่านรายละเอียดทั้งหมด โดยที่ท้ายสุดจะมีปุ่นให้กด "ยืนยัน" ว่า ข้าพเจ้าได้อ่าน และตกลงยินยอมตามรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมข้างต้น

และมีเครื่องดอกจันทร์ ** หมายเหตุ ผู้ลงทะเบียนรับทราบว่า หากผู้ลงทะเบียนไม่ตกลงและยอมรับตามข้อตกลงและเงื่อนไขข้างต้นจะไม่สามารถลงทะเบียนได้

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบ หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมฯ ในการลงทะเบียนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีดังนี้ 

สาระสำคัญของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ (โครงการฯ)

  1. ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
  2. คุณสมบัติของผู้ประกอบการร้านค้าและ/หรือผู้ให้บริการ (ผู้ประกอบการ) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
  • เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าและ/หรือบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  • ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ของผู้ประกอบการ

  1. กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ ผ่านสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะปิดรับสมัคร
  2. กรณีเป็นผู้ประกอบการนอกเหนือจาก (1) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ ผ่านสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะปิดรับสมัคร

 

คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ

  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  2. มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
  3. มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และมีบัตรประจำตัวประชาชน
  4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 หรือ ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือ ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
  5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  6. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  7. ในกรณีที่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 แล้วประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิมาใช้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิโครงการได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก
  8. ในกรณีที่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้วประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิมาใช้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิโครงการได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก

วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ของประชาชน

  1. กรณีเป็นประชาชนที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564
  2. ประชาชนนอกจาก (1) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ทั้งนี้ ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่สาขา หรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน “KrungthaiNext” ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยฯ แล้ว

เงื่อนไขการใช้วงเงินสิทธิในรูปแบบบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher)

  • รัฐจะสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้แก่ประชาชนเมื่อชำระเงินซื้อ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป หรือบริการนวด/สปา/ทำผมทำเล็บ และบริการอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการตามที่กระทรวงการคลังกำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com โดยการใช้ e-Voucher ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

 

  1. ประชาชนต้องชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g- Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่รับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
  2. ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการกันจริง
  3. การซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) และไม่มีกระบวนการใด ๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อ หรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว
  4. จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 7,000 บาท รวมตลอดทั้งโครงการฯ
  5. ค่าสินค้าและ/หรือบริการที่รัฐสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น โดยการกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการของโครงการฯ ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
  6. มูลค่า e-Voucher สามารถนำไปใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในช่วงระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยสามารถตรวจสอบช่วงระยะเวลาที่กำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com และ e-Voucher สามารถสะสมมูลค่าเพื่อใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ แต่ไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินสดได้
  7. แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน

 

เงื่อนไขในการได้รับ e-Voucher

(1) ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการด้วยเงินของตนเองผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่รับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในช่วงระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยสามารถตรวจสอบช่วงระยะเวลาที่กำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ทั้งนี้ ต้องไม่ใช่การซื้อสินค้าสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น โดยการกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และสามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com

(2) e-Voucher ที่ได้รับจะคำนวณจากมูลค่าการใช้จ่ายตาม (1) ของเดือนก่อนหน้า เช่น การใช้จ่าย ตาม (1) ของเดือนกรกฎาคม จะได้รับ e-Voucher ในเดือนสิงหาคม โดยมูลค่า e-Voucher ที่ได้รับ คำนวณจากมูลค่า ดังนี้

  • ยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ตั้งแต่ 1 – 40,000 บาทแรก ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 10 ของ ยอดใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน
  • ยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ตั้งแต่ 40,001 – 60,000 บาท ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
  • จำกัดยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน ทั้งนี้ จะได้รับ e-Voucher ทุกต้นเดือนถัดไป โดยคืนเป็นวงเงินสิทธิให้ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

รัฐจะสนับสนุน e-Voucher ตามเงื่อนไขการใช้วงเงินสิทธิในรูปแบบบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ไม่เกิน 4 ล้านหมายเลขประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง

การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามเงื่อนไขการใช้วงเงินสิทธิในรูปแบบบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher) จะพิจารณาเมื่อประชาชนลงทะเบียนสำเร็จ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิหรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ

  1. ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และต้องมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด
  2. ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  3. หากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยชดใช้ความเสียหายผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
  4. กระบวนการพิจารณาและดำเนินการตามข้อ 2.3 ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด

 

ข้อความตกลงยินยอมของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ

* “ข้าพเจ้า” หมายถึง ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ *

  1. ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) และบริการวอลเล็ต สบม.
  2. ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูล ส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้”และมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) และบริการวอลเล็ต สบม. ต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
  3. ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
  4. ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
  5. ความยินยอมของข้าพเจ้าในอันที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้าข้อ 3. นี้ ให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ความยินยอมตามข้อ 3
  6. ข้าพเจ้าตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และรับทราบว่าหากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือ ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 30 วัน โดยกระบวนการพิจารณาและดำเนินการให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
  7. ข้าพเจ้ารับทราบและยินยอมว่า ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ ของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่าข้าพเจ้ากระทำการดังกล่าวจริง ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 30 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
  8. 3.8 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
  9. ข้าพเจ้าได้อ่าน รับทราบ และตกลงยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วแต่กรณี ถูกต้อง ตามความเป็นจริงทุกประการ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระงับการจ่ายเงินตามโครงการฯ หรือชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ไม่ระงับซึ่งสิทธิของรัฐในอันที่จะดำเนินการตามกฎหมาย

ที่มา www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :