2 องค์กรภาคเอกชน"หอการค้า-สภาอุตสาหกรรม"สมุทรสาคร บุกทำเนียบจับเข่าคุย"พล.อ.ณัฐพล" แจงตัวเลขจัดสรรวัคซีนยังแค่ร่างอาจตกหล่น ย้ำเป็นพื้นที่สีแดง ด้านวัคซีนซิโนฟาร์มที่อบจ.ขอไปรอบนี้ท้องถิ่นยังไม่ได้ แต่โควต้าแต่ละโรงงานร่วม 1.5 หมื่นคน ทะยอยมา พร้อมเร่งวัคซีนสำหรับลูกจ้างม.33 สกัดการแพร่เชื้อในโรงงาน
การจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ชาวสมุทรสาครยังเจออุปสรรค โดยวัคซีนตัวเลือกที่ทางกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร ได้สั่งจองซิโนฟาร์ม กับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มิย.2564 จำนวน 200,000 โดส โดยหน้าจอเพจของราชวิทยาลัยฯ ได้ระบุถึงลำดับการพิจารณา ที่จะมีการแจ้งผลให้ผู้สั่งจองได้ทราบภายใน 5 วันทำการ หลังจากที่มีการลงทะเบียน กระทั่งวันจันทร์ที่ 21 มิย.64 ซึ่งครบกำหนดการแจ้งผลดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าทางนางสาวสินีปภา หงษ์ภักดี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองสาธารณสุขฯ ได้ประสานและเฝ้าติดตามผลการพิจารณาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่ได้รับอีเมลตอบกลับใด ๆ เพียงได้รับแจ้งว่า ให้รอการแจ้งผลจัดสรรทางหน้าจอเว็บไซต์ฯ
จากการตรวจสอบได้พบว่าทางเว็บไซต์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศสรุปการจัดสรรวัคซีนตัวเลือก ซิโนฟาร์ม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 1 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิย.2564 ให้กับองค์กรต่าง ๆ รวม 5,199 องค์กร รวมจำนวน 476,682 คน โดยยังไม่ได้จัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนไม่สามารถสั่งจองวัคซีนชนิดนี้ได้ภายใน 24 มิย.2564 ตามที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เคยแจ้งไว้ ที่จะเริ่มฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มตั้งแต่ 25 มิ.ย.2564 นี้ พร้อมกันสำหรับองค์กรที่ได้รับการจัดสรร
นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จังหวัดต่าง ๆ จะได้รับเป็นงวด ๆ ไป โดยไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ ตามแผนเดิมทางจังหวัดสมุทรสาครได้แจ้งขอรับจัดสรรวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าไป ในเดือนก.ค. 2564 เป็นจำนวน 330,000 โดส และขอรับวัคซีนของซิโนแวคบางส่วน แต่ก็ยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งระบุจำนวนการจัดสรรส่งกลับมาให้ เนื่องจากมีสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคฯ ในกทม.และจังหวัดปริมณฑลอื่น ๆ ทำให้จังหวัดสมุทรสาครอาจไม่ได้รับวัคซีนตามเป้าที่แจ้งไป โดยเชื่อว่าน่าจะได้รับวัคซีนประมาณ 100,000 โดส ตามเกณฑ์การจัดสรรให้กับจังหวัดที่อยู่ในระดับการควบคุมกลุ่มที่ 2
“ส่วนวัคซีนตัวเลือกที่ทางอบจ.สั่งจองจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจัดสรรของกรรมการมูลนิธิฯ เราคงไม่สามารถไปเร่งรัดได้ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดสมุทรสาครก็จะทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรมา ทั้งยังจำเป็นที่จะต้องเน้นเรื่องสุขลักษณะส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค โดยขอย้ำว่าแม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังสามารถติดโรคได้ ถ้าผู้ฉีดวัคซีนแล้วไม่ระมัดระวังป้องกันตนเอง” นายแพทย์นเรศฤทธิ์ กล่าว
ส่วนวัคซีนตัวหลักของภาครัฐที่กำลังจัดสรรให้จังหวัดต่าง ๆ สำหรับล็อตครึ่งหลังเดือนมิ.ย.2564 ที่มีตัวเลขหลุดออกมาว่าสมุทรสาครจะได้รับเพียง70,000 โดส จากที่ขอไป 330,000 โดส จนในพื้นที่ร้องระงม ด้านนายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่ตนพร้อมด้วยนายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เพื่อขอให้ทบทวนการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิย. 2564 โดยมีผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เป็นผู้รับหนังสือ
ทั้งนี้ ได้หารือในประเด็นการจัดสรรวัคซีนกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการจัดสรรวัคซีน ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าสมุทรสาครเป็นพื้นที่สีแดงไม่ใช่พื้นที่สีส้ม แต่อาจเป็นเพราะระหว่างการจัดสรร จังหวัดสมุทรสาครเกิดตกหล่นจากการเป็นพื้นที่สีแดงไป ซึ่งการจัดสรรดังกล่าวก็เป็นเพียงแบบร่างเท่านั้น ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามตนเองก็จะเดินหน้าต่อไปในการประสานหน่วยงานของรัฐ ให้ทำการจัดสรรวัคซีนมาให้จังหวัดสมุทรสาครมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงแรงงาน เพื่อจะได้ทราบถึงนโยบายการกระจายวัคซีนของส่วนกลาง สำหรับนำไปฉีดให้กับลูกจ้าง-ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33
“ส่วนวัคซีนซิโนฟาร์มซึ่งเป็นวัคซีนตัวเลือกนั้น ทางโรงงานต่าง ๆในจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้มีการจองกับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เช่นกัน เพื่อนำมาฉีดให้คนงานประมาณ 15,000 คน ซึ่งในส่วนของบริษัท อนุสรณ์มหาชัยซูริมิ จำกัด ของผมเอง ก็ได้รับการจัดสรรวัคซีนสำหรับฉีดให้กับคนงานไทย คนงานต่างด้าว และลูกค้าชาวต่างประเทศ จำนวน 50 คน หรือ 100 โดส โดยได้ทำการจองและโอนเงินค่าวัคซีนเข็มละ 888 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 88,800 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง