วันนี้(29 มิ.ย.64) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตุลาการ
ตามที่ประธานศาลฎีกาได้มีคําสั่งให้ นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง ข้าราชการตุลาการตําแหน่ง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษให้ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง และต้องพ้นจากตําแหน่ง ตามมาตรา ๓๒ (๒) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และสํานักงานศาลยุติธรรมได้ขอให้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท กรณี นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง พ้นจากตําแหน่ง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๐ ตามมาตรา ๑๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และขอพระราชทานพระราชานุญาต เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชันตรา ตามข้อ ๖ และข้อ ๗ (๔) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นําความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุกชันตรา ตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้าราชการตุลาการพ้นจากตําแหน่งและเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ลงวันที่ 9 มิถุนายน ๒๕๖๐ นั้น
เนื่องจาก นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง ได้อุทธรณ์คําสั่งลงโทษต่อคณะกรรมการตุลาการ ศาลยุติธรรม ตามมาตรา ๘๓ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมได้มีมติทบทวนคําสั่งลงโทษทางวินัย นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง โดยให้เปลี่ยนแปลงคําสั่งลงโทษเป็นให้ลงโทษงดเลื่อนตําแหน่งเป็นเวลา ๓ ปี โดยให้เริ่มนับโทษ ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งลงโทษให้ออกจากราชการ และให้นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง กลับเข้ารับราชการในตําแหน่งข้าราชการตุลาการ
บัดนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายชาญวิทย์ ทรงสว่าง ซึ่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมมีมติให้กลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตุลาการ และให้ดํารงตําแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่ง ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี