โควิด-19 สร้างขยะติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 178 ตันต่อวัน

01 ก.ค. 2564 | 04:59 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2564 | 11:57 น.

สาธารณสุข เผย โรคโควิด-19 เพิ่มปริมาณขยะมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 40.9 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้น 29.7% ระบุ เฉพาะเดือนเม.ย. ขยะติดเชื้อพุ่งเฉลี่ย 178 ตันต่อวัน แนะ วิธีกำจัดอย่างถูกวิธี ลดการแพร่ระบาด

1 กรกฎาคม 2564 ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2564 ภายใต้หัวข้อ “อนามัยสิ่งแวดล้อมปลอดภัย มิติใหม่สู่ความท้าทายในอนาคต” การจัดงานวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทยในปีนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานภาคี 6 หน่วยงาน อาทิ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย และสมาคมอนามัยแห่งประเทศไทย ร่วมจัดงานวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย

​ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ภายใต้หัวข้อ “อนามัยสิ่งแวดล้อมไทย มิติใหม่สู่ความท้าทายในอนาคต” (New Era of Thai Environmental Health towards Future Challenges) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งด้านสุขภาพอนามัยและปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปริมาณมูลฝอยทางการแพทย์เพิ่มขึ้นทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยพบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อ ซึ่งเกิดจากการตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล การกักกันผู้ติดเชื้อ รวมถึงมูลฝอยจากการให้บริการฉีดวัคซีน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2564 พบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 40.9 ตันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.7 โดยเฉพาะในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียวพบปริมาณมูลฝอยติดเชื้อสูงที่สุดเฉลี่ย 178 ตันต่อวัน

นอกจากนี้ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ซึ่งในปี 2563 มีประชากรกลุ่มเสี่ยงถึง 15 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด มีโอกาสได้รับผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว การเฝ้าระวังป้องกันความเสี่ยงสุขภาพของประชาชนจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างความร่วมมือและบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วนในการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แนวทางการจัดการมูลฝอยติดเชื้อในครัวเรือนหรือชุมชน กรณีพบผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดการเกิดมูลฝอยติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด–19 นั้น หากในพื้นที่ที่ระบบการเก็บขนส่งมูลฝอยติดเชื้อไม่สามารถเข้าถึงได้ให้ใช้วิธีการ ดังนี้

1.เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อโดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุมูลฝอยติดเชื้อให้ราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาว จากนั้นมัดปากถุงให้แน่น แล้วฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อ (สารโซเดียมไฮโปรคลอไรท์ 5,000 ppm หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์) บริเวณปากถุงแล้วซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น แล้วมัดปากถุงชั้นนอกให้แน่นและฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้ออีกครั้ง

2.เคลื่อนย้ายไปพักยังที่พักที่จัดไว้เฉพาะเพื่อรอประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาเก็บขนไปกำจัดอย่างถูกต้อง

3.ภายหลังจัดการมูลฝอยแล้วล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทันที

สำหรับประชาชนทั่วไปหากต้องทิ้งหน้ากากอนามัย ควรปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ เริ่มจากถอดหน้ากากโดยจับสายรัดและถอดหน้ากากอนามัยจากด้านหลัง จากนั้นให้พับหรือม้วนหน้ากากส่วนที่สัมผัสกับใบหน้าเข้าหากัน จนมีขนาดเล็กแล้วมัดด้วยสายรัดให้แน่น โดยหากสถานที่นั้นมีจุดทิ้งหน้ากากไว้เป็นการเฉพาะ ให้ทิ้งลงในถังหรือภาชนะนั้น

กรณีสถานที่นั้นไม่มีจุดสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยให้นำหน้ากากอนามัยที่พับแล้วใส่ถุงพลาสติก จากนั้นมัดหรือปิดปากถุงให้แน่น ก่อนทิ้งลงในถังหรือภาชนะรองรับขยะทั่วไปที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง และต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งหลังการทิ้ง