ปชป.ร่วมผลักดันรัฐเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ช่วยบุคลากรด่านหน้า

07 ก.ค. 2564 | 06:02 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ค. 2564 | 13:37 น.

ประชาธิปัตย์ (ปชป.) หนุนช่วย "นักรบชุดขาว" รับหนังสือกลุ่มภาคีสาธารณะสุข ยื่นข้อเสนอเร่งรัดภาครัฐ จัดการนำเข้าวัคซีน mRNA ฉีดเข็ม3 ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการดูแลผู้ป่วยโควิด

7 ก.ค. 2564 อาคารรัฐสภา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้รับ หนังสือข้อเรียกร้อง จาก นพ.สันติ กิจวัฒนาไพบูลย์ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป รพ.เอกชน ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และดร.ทนพ. นราวุฒิ สุวรรณัง หัวหน้าห้องปฏิบัติการ พริคลินิค รร.เตรียมวิทย์พัฒนา ตัวแทนภาคีบุคลากรสาธารณสุข และ กลุ่มหมอไม่ทน เพื่อให้รัฐบาล เร่งรัดการนำเข้าวัคซีน ป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA มาใช้เป็นวัคซีนหลักของประเทศไทย

 

ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังได้รับหนังสือรวบรวมรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่วไปที่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องดังกล่าวกว่า 200,000 รายชื่อ

ปชป.ร่วมผลักดันรัฐเร่งจัดหาวัคซีน mRNA ช่วยบุคลากรด่านหน้า

นายปริญญ์ กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์เป็นบุคลากรด่านหน้าที่มีความสำคัญมากในช่วงวิกฤตโควิด-19 ต้องให้การรักษาและเสียสละสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ เพราะนอกจากจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่มีอย่างจำกัดด้วย

 

“หากพวกเขาล้มลงจะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อระบบสาธารณสุขไทย พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวและยินดีเป็นหนึ่งในแรงสนับสนุนที่จะช่วยสะท้อนความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนไปยังรัฐบาล ผ่านกลไกของรัฐสภา โดยข้อเรียกร้องและรายชื่อที่ทางภาคีบุคลากรสธ.และกลุ่มหมอไม่ทน มายื่นต่อประธานรัฐสภาและพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้” นายปริญญ์กล่าว  

 

ด้านตัวแทนภาคีบุคลลากรสธ. และกลุ่ม “หมอไม่ทน”  กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ วัสดุอุปกรณ์ รวมถึงสถานที่สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตนั้นมีอยู่จำกัด ทำให้พวกตนตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งการนำเข้า mRNA วัคซีน ที่ข้อมูลทางการแพทย์ชี้ว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันการเสียชีวิตและป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีกว่าวัคซีนชนิด Viral Vector ที่ประเทศไทยมีอยู่ตอนนี้ จึงได้จัดทำข้อเรียกร้องและทำแคมเปญล่ารายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกว่า 200,000 มายื่นที่รัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำเข้าวัคซีน mRNA มาใช้เป็นวัคซีนหลักในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยเฉพาะเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ได้กลายเป็นสายพันธุ์ของประเทศไปแล้วอย่างเร่งด่วน ผ่านการช่วยประสานงานของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคปชป.

โดย ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด messenger Ribonuleic Acid (mRNA) เช่น Pfizer, Moderna และพิจารณาเลือกใช้วัคซีนชนิด mRNA เป็นวัคซีนหลักของประเทศ รวมถึงให้บริการฉีดแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

2. รายงานและเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการ และผลการดำเนินเรื่องการจัดหาตลอดจนกระจายวัคซีนที่เป็นปัจจุบันโปร่งใสและตรวจสอบได้

3. นำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อมาฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อลดการแพร่เชื้อและความเสี่ยงของบุคลากรฯ เนื่องจากเป็นกำลังสำคัญของระบบสาธารณสุขในตอนนี้