คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติโครงกการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในพื้นที่สีแดงเข้มภายใต้กรอบวงเงิน 2,519.3800 ล้านบาท เมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
ครอบคลุม 4 กิจการ
สำหรับมาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่สำนักงานประกันสังคม ภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน ได้นำเสนอครอบคลุมพื้นที่ 4 กิจการ ดังนี้
1. กิจการก่อสร้าง
2. กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3. กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
4. กิจการกิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ
กิจการ 4 ประเภทแยกย่อยดังนี้
สำหรับมาตรการเยียวยาครอบคลุม 4 ประเภทกิจการ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม ได้อธิบายชัดเจนในเรื่องนี้ว่า ต้องทำความเข้าใจคำว่า กิจการก่อสร้าง นั้นได้แบ่งประเภทกิจการตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ยกตัวอย่างกิจการก่อสร้างที่จะได้รับการเยียวยา เช่น การก่อสร้างฐานราก การตอกเสาเข็ม การติดตั้งชิ้นส่วนเหล็ก การก่ออิฐ การทำงานบนที่สูง ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างไม้ การเช่าปั้นจั่นพร้อมคนขับ รวมถึงรถเครน เช่นบริษัท ก รับเหมาก่อสร้างตึก ว่าจ้างรถเครนบริษัท ข มาทำงาน ลูกจ้างของบริษัท ข ก็มีสิทธิได้รับการเยียวยาตาม
ส่วนกิจการพักแรม ยกตัวอย่างคือโรงแรม รีสอร์ต ห้องชุด เกรสเฮาส์ ที่พักสัมผัสวัฒนธรรม กิจกรรมที่พักแรมระยะสั้น
ส่วนกิจการด้านอาหาร ตัวอย่างเช่น ภัตตาคาร ร้านอาหาร แผงลอย/ในตลาด ร้านอาหารเคลื่อนที่ บริการอาหารจัดเลี้ยง บริการอาหารสำหรับกิจการขนส่ง การดำเนินงานของโรงอาหาร รวมถึงผับ บาร์ ร้านขายเครื่องดื่ม นม น้ำผลไม้ด้วย จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างแต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม ขอให้มาขึ้นทะเบียนเข้าระบบเพื่อ เป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ใน 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย ว่างงาน คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ทุพพลภาพ ชราภาพ และเสียชีวิต อีกทั้งยังได้รับเงินเยียวยาเพิ่มเติมจากรัฐบาลกรณีได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐ
พื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดที่ได้รับสิทธิ
ลงทะเบียนเยียวยาผ่านระบบ e-services
สำหรับลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ผู้ประกอบการมีหน้าที่ลงทะเบียนรับสิทธิให้ลูกจ้าง โดยลงทะเบียนผ่านออนไลน์ใน ระบบ e-services บนเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่นำส่งประกันสังคม แต่ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน
คลัง เยียวยาเพิ่มอีก 2,000 บาท
นอกจากนี้กระทรวงการคลังจะจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มอีกรายละ 2,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการรับเงินเยียวยาจำนวน 3,000 บาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง ในส่วนผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างแต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม ขอให้มาขึ้นทะเบียนประกันสังคมในระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.- 30 ก.ค.64 โดยสามารถขึ้นทะเบียนผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะได้รับเงินเยียวยา โดยลูกจ้างสัญชาติไทยรับเงินรายละ 2,000 บาท นายจ้างรับ 3,000 บาทลูกจ้างหนึ่งคน สูงสุดไม่เกิน 200 คนต่อแห่ง โดยกระทรวงการคลังจะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยติดต่อสายด่วนประกันสังคม 1506 กด 1 ตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีลงทะเบียนมีดังนี้
ลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต
ส่งข้อมูลทะเบียนผู้ประกันตน
นายจ้างดำเนินการส่งข้อมูลทะเบียนผู้ประกันตนตามขั้นตอน ดังนี้
การส่งข้อมูลเงินสมทบ
ที่มา: สำนักงานประกันสังคม