นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ต้องมีการประกาศ มาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานที่และกิจการต่างๆ เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อพี่น้องประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับรู้ปัญหาของทุกกลุ่ม และได้ประชุมหารือหน่วยงานด้านเศรษฐกิจเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในทันที
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออก มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ สำหรับลูกจ้างและกิจการใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน สำหรับประชาชนทั่วประเทศ มาตรการความช่วยเหลือบรรเทาค่าใช้จ่ายของประชาชนด้านอื่นๆ มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา และมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้
นายธนกรให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือแรงงานและนายจ้างผู้ประกอบการในระบบประกันสังคมและนอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและมาตรการควบคุมการระบาด เพิ่มจากเดิม 4 สาขาอาชีพ (ก่อสร้าง/ ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร /ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ /กิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ) เป็น 9 สาขาอาชีพ โดยสาขาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 สาขา ได้แก่
โดยในระบบประกันสังคม ผู้ประกันตน ม.33 สัญชาติไทย รัฐบาลจะจ่ายเพิ่มเติมให้ลูกจ้าง 2,500 บาท/คน เพิ่มเติมจากจ่ายชดเชยเยียวยาร้อยละ 50 ของรายได้ให้ลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน7,500 บาท เป็นผลให้
นายธนกร กล่าวอีกว่า ในส่วนของ การเยียวยานอกระบบประกันสังคม มีรายละเอียดคือ
ในส่วน ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ในหมวดร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้าน OTOP ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าบริการและกิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.40) ภายในเดือน ก.ค. 64 จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท/คน กรณีที่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.33) ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อผู้ประกอบการจะได้รับเงินตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คนในอัตรา 3,000 บาท/หัว/สถานประกอบการ และลูกจ้างสัญชาติไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาท/คน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเยียวยาประชาชนทั่วประเทศด้วยการ ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำ เป็นเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนนี้ ก.ค. - ส.ค. 64 ส่วนมาตรการช่วยเหลือด้านการศึกษา ครม. ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาฯ และสถานศึกษาหาแนวทางลดค่าเทอมในภาคเรียนที่ 1 /2564 และวางแผนร่วมกันในการเสนอโครงการที่รัฐจะร่วมสมทบส่วนลดบางส่วนให้แก่สถานศึกษา ให้เสนอครม. ภายใน 1 สัปดาห์ รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือปัญหาทางการเงินแก่สถานศึกษาเอกชนด้วย เพื่อเราจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน