องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทุกคัน ไม่ให้เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้ใช้บริการ ตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 จำนวน 11 ข้อ เพื่อใช้เป็นข้อปฏิบัติ ในการแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ให้คลี่คลายลงโดยเร็ว
โดยข้อที่ 6 กำหนดให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสาร
สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและการปฏิบัติตามมาตรการ ด้านสาธารณะสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะ ให้เพียงพอต่อความจำเป็น และตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ขสมก. จึงปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. เหลือรถ 2 คันสุดท้าย
2. เหลือรถ 1 คันสุดท้าย
3. รถคันสุดท้าย
ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถโดยสาร นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด
กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป รวมทั้ง ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลา 18.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถโดยสาร ในช่วงเวลาก่อนรถโดยสารหยุดให้บริการ (20.00 - 21.00 น.) ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถโดยสาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ