24 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวที่มี นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ร.อ.อ. นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีการนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับภูมิลำเนาและเข้าสู่ระบบการรักษา
โดย นพ.ธงชัย เปิดเผยว่า ด้วยความเป็นห่วงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของผู้ป่วยมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดแต่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ และติดเชื้อโควิด อยากจะกลับไปภูมิลำเนาของตัวเอง ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ดูแลพี่น้องต่างจังหวัดที่ติดเชื้อโควิด และประสงค์จะเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา
รัฐบาลมีความเป็นห่วงว่าการเดินทางจะเป็นยังไร จึงมอบกระทรวงสาธารณสุขวางแผนให้นำผู้ป่วยติดเชื้อกลับไปอย่างปลอดภัย ไม่แพร่เชื้อระหว่างการเดินทาง เพราะหลายท่านไม่มีรถส่วนตัวจะไปรถสาธารณะเกรงว่า ไม่สามารถที่จะดูแลป้องกันการแพร่ระบาดได้
จึงให้สร้างระบบการดูแลโดยประสานระหว่างก.สาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สปสช. กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นในการเข้ามามีส่วนร่วมดูแลในครั้งนี้
สำหรับในกรุงเทพฯ คาดการณ์ว่า มีประชากรประมาณ 8 ล้านคน เป็นประชากรแฝงมาจากภูมิภาคประมาณ 2.41 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 43.6% ภาคกลาง 25.5% ภาคเหนือ 19.9% ภาคใต้ 5.4% คาดการณ์ว่า กลุ่มเหล่านี้อาจจะมีผู้ที่ติดเชื้อ ที่อยู่ในกรุงเทพฯที่จะต้องเดินทางกลับ
ข้อมูลหลังรัฐบาลมีการล็อกดาวน์ช่วงวันที่ 19-22 ก.ค.จากข้อมูลของ ศบค.มีผู้เดินทางกลับไปภูมิลำเนา 504,241 ราย กลุ่มนี้เดินทางออกไปเอง คาดว่า ในนี้อาจจะมีผู้ที่ติดเชื้อไปด้วย
จึงเป็นนโยบายของรัฐบาลให้มีการเดินทางที่ปลอดภัยและไปถึงในสถานที่ที่ได้รับการดูแลทันทีในภูมิลำเนา มีเป้าหมายให้นำผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม ณ สถานที่ซึ่งจังหวัดกำหนด
และมีการบริหารทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยต้องเป็นผู้ป่วยมีอาการคงที่ สามารถเดินทางได้ จังหวัดปลายทางพร้อมรับและส่งต่อตามมาตรฐานการป้องกันและควบคุมโรค
สำหรับผู้ป่วยที่ประสงค์จะเดินทางสามารถโทรไปที่ 1330 กด 15 เป็นหมายเลขของ สปสช. หรือแอพพลิเคชั่นที่โหลดและสามารถกรอกประวัติการเดินทางได้ ว่าจะกลับไปที่ไหน หลังจากรู้ผลตรวจว่า ติดเชื้อแล้ว
จากนั้น สปสช.จะส่งข้อมูลมาให้กับกระทรวงสาธารณสุขที่จะประสานกับจังหวัดปลายทาง ที่จะเดินทางไปว่ามีผู้ป่วย มีผู้ติดเชื้อ มีลักษณะอาการ จะไปถึงเมื่อไหร่ให้เตรียมสถานที่รองรับ
ขณะเดียวกันจะประสานกับ สพฉ. เตรียมการนำรถ หรือรถยนต์ รถไฟ เครื่องบินที่มีประสานกันเพื่อนำผู้ป่วยไปสู่ภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย หลังประสานคาดว่า ใช้เวลาไม่เกิน 3 วันจะสามารถได้เดินทาง
ผู้ติดเชื้อต้องมีเวลาในการเตรียมตัว และถึงเป้าหมายภายใน 4 วัน ช่วงที่รอต้องปฏิบัติตามมาตรการ ระวังตัวเองไม่แพร่เชื้อ ถ้ามีอาการเพิ่มเติม หนักขึ้น สามารถประสานไปที่ 1330 หรือ 1668 ได้
ทั้งนี้ สำหรับในช่วงระบาดระลอกใหม่ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ไปแล้วทั้งสิ้น สำหรับในช่วงระบาดระลอกใหม่ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ไปแล้วทั้งสิ้น 31,175 ราย
เป็นผู้ป่วยสีเขียว 70.37% สามารถเดินทางได้ และเป็นผู้ป่วยสีเหลือง 21.93% ผู้ป่วยสีแดง 7.7%
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสานจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ต้องขึ้นอยู่กับอาการด้วยในขณะนั้นด้วย จะต้องมีการประเมินก่อนว่าจะสามารถเดินทางไกลได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้ เป็นผู้ป่วยสีแดง ระบบจะติดต่อเพื่อนำไปรักษาในโรงพยาบาลที่เหมาะสมในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามในระหว่างเดินทางกลับภูมิลำเนา จะมีการดูแลในระหว่างเดินทาง ทั้งอาหาร น้ำดื่ม การดูแลสุขภาพ นพ.ธงชัย ระบุ
อย่างไรก็ดี สำหรับการดูแลรายพื้นที่ตามนโยบายของนายกฯ ได้ให้ทีม ครม.เข้ามาดูแลประชาชนกลับภูมิภาคโดยสวัสดิภาพ ดังนี้
1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม
ดูแลพื้นที่ของอีสานใต้ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร
2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ดูแลพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และราชบุรี
3.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ดูพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ
4.นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขาฯของนายอนุทิน ดูแลพื้นที่จังหวัดสระบุรี
5.นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ดูพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี
6.นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ดูพื้นที่จังหวัดระยอง
7.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
8.นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ดูพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี
9.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ดูพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและชัยนาท
10.นายศุภชัย โพธิ์สุวรรณ รองประธานรัฐสภา ดูพื้นที่จังหวัดนครพนม