หลังจากในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (30 ก.ค.64) วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.54 ล้านโดส ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มอบให้กับไทย ได้มีการขนส่งมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการต่างๆก่อนจะกระจายไปตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีก็ได้ย้ำชัดว่า วัคซีนไฟเซอร์นั้นจะเน้นฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น และจะต้องไม่มีกรณีจัดสรรไปยังบุคคลสำคัญ หรือนอกกลุ่มที่กำหนดไว้เป็นอันขาด
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดสนั้น ก็แบ่งได้ดังนี้
นอกจากนั้นแล้ว ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ยังจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้คนไทยเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมทั้งหมดเป็น 2.5 ล้านโดส
สำหรับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค ซึ่ง Pfizer Inc. บริษัทยาของสหรัฐฯ และ BioNTech SE บริษัทไบโอเทคโนโลยีของเยอรมนี ร่วมกันพัฒนาขึ้น วัคซีนโควิดของไฟเซอร์มีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ชนิดสารพันธุกรรม (mRNA vaccines) และเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับอนุญาตทะเบียนแบบฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก และข้อมูลขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ร้อยละ 95
ขณะที่อาการข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนโควิดไฟเซอร์ รายงานจากต่างประเทศเผยว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 1 ล้านคน มีโอกาสพบผู้ที่แพ้วัคซีนอย่างรุนแรงประมาณ 4.7 คน และในสหรัฐอเมริกา ยังไม่พบผู้ที่เกิดผลข้างเคียงรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนอาการที่พบเห็นได้ มีดังนี้
นอกจากนั้นแล้วยังมีรายงานกรณีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประเภท mRNA พบว่า เข็มที่ 2 มีแนวโน้มอาการข้างเคียงรุนแรงมากกว่าเข็มแรก ซึ่งอาจจะแตกต่างจากวัคซีนประเภท viral vector (แอสตร้าเซนเนก้า) ที่เข็ม 2 มักจะมีแนวโน้มรุนแรงน้อยกว่าเข็มแรก