เปิดผลโพลล์คนกรุงฯอยากฉีดวัคซีนโควิดยี่ห้อไหนมากที่สุด เช็คเลย

29 ก.ค. 2564 | 10:22 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2564 | 17:28 น.

กรมควบคุมโรค สธ. เผยผลดีดีซีโพล (DDC Poll) สำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ 50 เขต พบว่า วัคซีนโควิดที่คนกรุงฯอยากฉีดมากที่สุดคือไฟเซอร์ ส่วนสาเหตุที่ประชาชนไม่อยากฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียง ไม่มั่นใจในประสิทธิผลวัคซีน

กรมควบคุมโรค ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนผ่านดีดีซีโพล (DDC Poll) เรื่อง วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คน ช่วงอายุตั้งแต่ 15- 60 ปีขึ้นไป จาก 50 เขตในจังหวัดกรุงเทพฯ วันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2564  


จากผลการสำรวจพบว่า  ร้อยละ 76.5 ได้รับวัคซีนโควิด 19 แล้ว โดยเป็นวัคซีน 1 เข็ม ร้อยละ 44 , ครบ 2 เข็ม ร้อยละ 32.3 และเข็มที่ 3 ร้อยละ 0.3 โดยเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า  AstraZeneca คิดเป็น 47.3% ซิโนแวค Sinovac 28.3% และอีก 1% เป็น ซิโนฟาร์มSinopharm


ขณะที่การเข้าถึงบริการฉีดวัคซีนด้วยช่องทาง ดังนี้ 
1.ประกันสังคม/โควตา หน่วยงาน ร้อยละ 32.1 
2.หมอพร้อม ร้อยละ 19.5 
3. ไทยร่วมใจ ร้อยละ 11.4 


ซึ่งผลการสำรวจในข้อนี้ กว่าครึ่งของการสำรวจ จำนวน 59.1% ได้ตอบว่าเข้าถึงระบบการจองยาก และอีกส่วนหนึ่งจำนวน 22% ยังไม่ได้ลองเข้าไปทำการจอง 


เมื่อถามถึงชนิดวัคซีนที่คนกรุงเทพฯ ต้องการมากที่สุด
1. Pfizer  46.3% 
2. Moderna 27.5% 
3.Johnson & Johnson 9.3% 
4.ยี่ห้ออะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีดในสถานการณ์ที่มีคนติดเชื้อในปริมาณมาก 2.8%
 

กลุ่มผู้ตอบ ร้อยละ 79 เห็นว่า ควรไปฉีดวัคซีนโควิด 19 เนื่องจาก
1. เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
2. กลัวการติดเชื้อและผลข้างเคียงที่เกิดจากการเจ็บป่วย 
3.จะได้ใช้ชีวิตปกติ 
4. กลัวรัฐบาลไม่ให้ความช่วยเหลือ 
5. ไม่มีทางเลือก 
6. ลงทะเบียนจองโดยโอนเงินจองไปแล้ว

ส่วนอีก 21% ที่ไม่อยากไปฉีดสาเหตุจาก 
1.กลัวผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีอยู่ 
2.อยากฉีดวัคซีนทางเลือกที่มีประสิทธิภาพแต่ยังไม่เข้ามาในไทย

นอกจากนั้นแล้วยังมีการสำรวจความคิดเห็น ว่าจากสถานการณ์ที่มีการระบาดในปัจจุบัน มาตรการใดที่เป็นมาตรการสำคัญที่ทำให้ควบคุมการระบาดได้ ผู้ตอบเห็นว่า 55.93% มาตรการทางกฎหมาย ร่วมกับมาตรการวัคซีน44.53% คิดว่า มาตรการส่วนบุคคลร่วมกับ มาตรการฉีดวัคซีน 31.53% คิดว่า มาตรการส่วนบุคคลร่วมกับ มาตรการทางกฎหมาย และ 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจ คิดว่าต้องใช้ทุกมาตรการร่วมกัน


ในส่วนของความวิตกกังวลในสถานการณ์ การระบาดระลอกใหม่นี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 80% มีความวิตกกังวลมาก โดยสาเหตุ คือ กลัวติดเชื้อโควิด 19 เรื่องปัญหารายได้ลดลงและขาดรายได้ ด้านการเรียนไม่ต่อเนื่อง และกังวลเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีน/ได้รับวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพ
 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม กลุ่มดังกล่าวมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในครอบครัวด้วย คิดเป็น 65.7% ซึ่งผู้สูงอายุกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนแล้ว คิดเป็น 79.92% ซึ่งยังต้องเร่งฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุให้ครอบคลุมถึง 80% ต่อไป 


ทั้งนี้จากความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกับกรุงเทพมหานคร  ในการสนับสนุนวัคซีน โดยผ่านคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการ การให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยจัดสรรให้มีการกระจายผ่านสำนักอนามัยไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดกรุงเทพฯ นั้น มีการฉีดสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-28 ก.ค. 64 จำนวน 5,533,406 โดส เป็นการฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 4,643,227 โดส คิดเป็น 60.31% เข็มที่ 2 จำนวน 1,025,493 โดส คิดเป็น 13.32% (ประชากรกรุงเทพฯ 7,699,174 คน) 


ซึ่งความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นเป็นไปตามแผนการบริหารการให้วัคซีนที่ทาง ศบค. ได้กำหนดไว้ และสอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของ DDC Poll ที่เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเข้ารับบริการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 607 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ผู้มีโรคอ้วนและหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ได้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพื่อลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิต