จ่ายแล้ววันนี้! เงินเยียวยาผู้ประกันม.33 ใน 3 จังหวัด กว่า 2.7 แสนราย

09 ส.ค. 2564 | 05:58 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2564 | 18:05 น.

สปส.โอนเงินเยียวยาถึงมือผู้ประกันตน ม.33 ใน3 จังหวัดแล้ว ผ่านพร้อมเพย์วันนี้ ( 9 ส.ค.) กว่า 2.7 แสนราย และนายจ้าง ใช้งบกว่า 1,522 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบขยายพื้นที่เยียวยาผูประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 จาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด เพิ่ม จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา

ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร โดยให้มีอัตราการจ่ายและวิธีการจ่ายเงินเช่นเดิม ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ สปส.ได้โอนเงินให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และอยุธยา

จ่ายแล้ววันนี้! เงินเยียวยาผู้ประกันม.33 ใน 3 จังหวัด กว่า 2.7 แสนราย

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยานายจ้าง ลูกจ้าง มาตรา 33 ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา มีผู้ประกันตนได้รับสิทธิจำนวน 272,746 คน นายจ้าง 19,213 ราย ใช้วงเงินทั้งสิ้น 1,522 ล้านบาท แยกเป็น นายจ้าง 841 ล้านบาท และลูกจ้าง 681 ล้านบาท โดยวันนี้ประกันสังคมได้โอนเงินให้ผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง

“การโอนเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 3 จังหวัด 9 กิจการในวันนี้ ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ภาคแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามเจตนารมย์ของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้ทุกคน ทุกกลุ่ม เดินหน้าต่อไปได้และก้าวข้ามสถานการณ์โควิดในครั้งนี้ไปด้วยกัน”นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด