“นายกฯ”เล็งประเมิน“คลายล็อกดาวน์”หลัง 31 ส.ค.นี้

19 ส.ค. 2564 | 06:12 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2564 | 18:12 น.

“นายกฯ”เล็งประเมิน “คลายล็อกดาวน์” หลัง 31 ส.ค.นี้ ระบเห็นสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตแล้ว ก็เสียใจ และไม่อยากให้เกิดขึ้น ขอความร่วมมือให้อยู่ด้วยความสงบ ลดความวุ่นวาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ให้สัมภาษณ์วันนี้(19 ส.ค.64) ภายหลังการตรวจเยี่ยมระบบการดูแลผู้ป่วยโควิด -19 ในระบบ Home Isolation และติดตามความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และให้ความสำคัญแนวทางในการใช้เทค โนโลยีดิจิตอล มาเสริมในระบบ Home isolation และเห็นความพึงพอใจของคนไข้ในระบบที่รักษาจากที่บ้าน โดยมีการติดตามตรวจสอบอาการแบบออนไลน์ เพื่อลดภาระการเข้าโรงพยาบาล ที่มีความแออัดในขณะนี้ พร้อมให้กำลังใจ คณะแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง 

 

ขณะนี้กำลังมีการวิจัยและพัฒนาวัคซีน mRNA จากใบยา ที่มีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด ความคืบหน้าจะมีการทดลองกับมนุษย์ในเดือนกันยายนนี้   และหากทำได้ จะได้วัคซีนของเราเอง ในปีหน้า ซึ่งเป็นความหวัง ต้องเดินหน้าและทำให้ได้

“วันนี้ต้องติดตามสถานการณ์ ว่าเป็นอย่างไรในการล็อกดาวน์ ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเปิดหมด คนก็ไม่กล้าออกมา เพราะยังกลัว อย่างไรก็ตาม หลังวันที่ 31 ส.ค.นี้ จะให้มีการพิจารณา โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับตัวเลข และผลการทำงานว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ถ้ามองสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิต ผมก็เสียใจและไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ในอนาคต ระบบสาธารณสุขของเราจะแข็งแกร่งขึ้น โดยต้องเตรียมการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดในอนาคต”

 

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน จะทำให้ดีที่สุด ขณะที่สถานการณ์โลก ก็ยังมีปัญหา รวมถึงเรื่องวัคซีน แต่ยืนยันว่าไม่ท้อแท้ และจะร่วมแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด 


 

“ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ต้องมองไปข้างหน้าและหลายวันมานี้ที่ไม่ได้ออกมาพบสื่อมวลชน เพราะต้องติดตามแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ใช่แค่โควิดอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆ ในการทำงาน ผมจึงต้องมีสมาธิในการทำงาน 

 

และวันนี้จะทำให้อย่างไรให้ประเทศไทย อยู่กับโควิด ให้ได้ด้วยความสงบ เพราะหากไม่สงบอย่างไรก็อยู่ไม่ได้ วุ่นวายและร้อนรุ่มไปหมด และจะเกิดปัญหาในการทำงาน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนด้วย อย่าทำอะไรที่ยังไม่ให้ทำได้ เพราะจะเป็นภาระเจ้าหน้าที่ เสียแรงเสียเวลา และมีโอกาสติดเชื้อได้”

 

ในช่วงท้ายนายกรัฐมนต ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีที่มีข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมาถึงหลักการในการจัดซื้อ Antigen Rapid Test Kit ที่ต้องผ่านมาตรฐาน WHO โดยนายกรัฐมนตรี ตอบเพียงสั้นๆว่า “กำลังดำเนินการอยู่ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ชี้แจง”