สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียว่า เมื่อวันศุกร์(20 ส.ค.)ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการขึ้นทะเบียนเป็นการฉุกเฉิน ให้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชื่อ "ไซคอฟ-ดี" ( ZyCoV-D ) ซึ่งถือเป็นวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาที่พัฒนาโดยใช้พลาสมิด ดีเอ็นเอ (Plasmid DNA ) ตัวแรกของโลก
ทั้งนี้ วัคซีนไซคอฟ-ดี เป็นแบบฉีด 3 เข็ม มีหลักการทำงานคือ เป็นการใช้สารพันธุกรรมอย่างจำเพาะเจาะจงจากเชื้อไวรัสโคโรนา ไปกระตุ้นให้ดีเอ็นเอ หรืออาร์เอ็นเอในร่างกายมนุษย์สังเคราะห์รหัสคำสั่ง ให้ร่างกายผลิตโปรตีนส่วนที่เป็นปุ่มหนามของเชื้อไวรัส และโปรตีนส่วนนี้จะเป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายรู้จักเชื้อโรค และสร้างภูมิคุ้มกันใหักับตัวเองจากโรคโควิด-19
นอกจากจากนั้นวัคซีนไซคอฟ-ดี ยังเป็นวัคซีนไร้เข็ม ตัวแรกของโลก โดยเข้าสู่ร่างกายผ่านเครื่องมือเฉพาะ เพื่อส่งวัคซีนให้ซึมเข้าทางผิวหนังด้วยความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลให้กับผู้ที่มีความกลัวต่อเข็มฉีดยาได้
“วัคซีนไซคอฟ-ดี เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อินเดียพัฒนาเองเป็นรายการที่ 2 ซึ่งผ่านการยอมรับจากรัฐบาลนิวเดลี ต่อจากวัคซีน "โควาซิน" ( Covaxin ) ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย ผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทค”รายงานข่าวระบุ
ขณะที่บริษัทไซดัส คาดิลลา ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนไซคอฟ-ดี ให้ข้อมูลว่า ได้ยื่นเรื่องขอรับการพิจารณาจากรัฐบาลอินเดีย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อมูลสำคัญคือ ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ อยู่ที่ 66.6% จากการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 กับกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 28,000 คนทั่วประเทศ ในจำนวนดังกล่าวประมาณ 1,000 คน มีอายุ 12-18 ปี ส่วนการเก็บรักษาให้อยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส