ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบแผนการกระจายฉีดวัคซีนโควิด จำนวน 24 ล้านโดส แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-31 ต.ค. 2564
รวมถึงการเห็นชอบแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ การฉีดเข็มกระตุ้น และการเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป แบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส
กลุ่มเป้าหมายที่จะกระจายฉีดวัคซีน 24 ล้านโดส ตั้งแต่ 27 กันยายน - 31 ตุลาคม 2564 ใน 5 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
1.ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ วัคซีน 16.8 ล้านโดส คิดเป็น 70% ของวัคซีนที่หาได้ในเดือนตุลาคม มีสูตรการฉีดวัคซีน 3 สูตร คือ
1.ซิโนแวค+แอสต้ราเซนเนก้า
2.แอสตร้าเซนเกนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า
3.แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์
2.นักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปี จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์+ไฟเซอร์ ใช้วัคซีน 4.8 ล้านโดส คิดเป็น 20% ของวัคซีนในเดือนตุลาคม
3. แรงงานในระบบประกันสังคม จะฉีดวัคซีนซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ใช้วัคซีน 8 แสนโดส คิดเป็น 3% ของวัคซีนในเดือนตุลาคม
4. หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ จะฉีดวัคซีนซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้าใช้วัคซีน 1.1 ล้านโดส คิดเป็น 5% ของวัคซีนในเดือนตุลาคม
5. ผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้น จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 ใช้วัคซีน 5 แสนโดส คิดเป็น 2% ของวัคซีนในเดือนตุลาคม
แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิดของประเทศไทย ตามมติการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ศปก.สธ. เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64 เป็นดังนี้
การฉีดวัคซีนสูตรไขว้
สูตรแรก คือ ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า เว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์ เป็นวัคซีนหลักของประเทศไทย ใช้ในผู้ที่มีอายุ 18 ขึ้นไปทุกกลุ่ม
สูตรที่สองคือ แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์ เว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 4-12 สัปดาห์ ใช้ทดแทนสูตรแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม และในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นอื่น
ส่วนสูตรการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแบบเข็มกระตุ้น สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม หลังจากการฉีดอย่างน้อย 4 สัปดาห์จะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งเป็นสูตรการฉีดวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขมีการศึกษาวิจัยแล้วว่ามีประสิทธิภาพดี และสอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยยืนยันว่าสูตรการฉีดวัคซีนทุกสูตร มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาได้
การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ที่ติดเชื้อ
วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือ วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1 เข็ม เว้นระยะห่าง 1-3 เดือนหลังจากตรวจพบเชื้อ และหายดี รวมทั้งพ้นระยะกักตัวแล้ว หรือหากเกิน 3 เดือน ให้วัคซีนโดยเร็ว แต่จะฉีดให้เฉพาะผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วแต่ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์แล้วติดเชื้อ