วันนี้(17 ก.ย.64) ที่โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายยุพราช บัวอินทร์ นักวิชาการประจำตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พบปะประชาชนเยี่ยมให้กำลังใจในพื้นที่อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก พร้อมมอบเงินเยียวยาจำนวน 1,627,000 บาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 138 ครัวเรือน
โดยได้รับฟังการรายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จากผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ และผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ เพื่อนำความห่วงใยการช่วยเหลือจากรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย มามอบให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งตนได้ติดตามรายงานทุกวัน ด้วยความห่วงใยประชาชนที่ประสบภัย ขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมการสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อเร่งรัดการเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และการฟื้นฟูหลังน้ำลดให้กลับสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งจ่ายเงินชดเชยเยียวยาบ้านพักอาศัยที่เสียหาย พื้นที่เกษตรและเครื่องมือประกอบอาชีพเสียหาย ฯลฯ อย่างเต็มที่ และให้ดูแลความปลอดภัยและชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก
ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางรัฐบาลเตรียมพร้อมเยียวยาและฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจะดูแลรวมไปถึงทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ช่วยเหลือประชน และฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคได้ทันที พร้อมขอให้จังหวัดวางแผนและเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงมรสุม
รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ และจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด โดยไม่ทอดทิ้งใครแน่นอน รวมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ตามกำลังของตนเอง เพื่อให้เราก้าวพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน
สิ่งสำคัญ อีกประการหนึ่งคือการบริหารจัดน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งน้ำเพื่อมาทำการเกษตรและอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่จะต้องอาศัยจากน้ำฝนเป็นหลัก โดยปัญหาที่เกิดขึ้นคือเราไม่สามารถกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งของปีถัดไปได้ ซึ่งตนได้ให้นโยบายเรื่องนี้มาโดยตลอดคือการ"สร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล" สร้างที่ให้น้ำอยู่คือเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ส่วนทำทางให้น้ำไหลคือจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้สามารถระบายได้เร็วขึ้นไม่ให้เกิดการเอ่อท่วมล้นสร้างความเสียหายให้แก่บ้านประชาชน เมื่อเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก
ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจากภัยแล้งและอุทกภัย
จากนั้น นายนิพนธ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในตำบลสักหลง และตำบลปากดุก อำเภอหล่มสัก พร้อมกับแจกถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อน จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมขัง และเดินทางไปมอบเงินเยียวยาให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตในพื้นที่อำเภอหล่มสัก และอำเภอหนองไผ่
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดน้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก และอำเภอน้ำหนาว รวม 16 ตำบล ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำใน อ.หล่มสัก ระดับน้ำลดลงแล้ว ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 4,545 ครัวเรือน ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือเยียวยาให้ครอบคลุม