ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลวิจัยการฉีดวัคซีน Booster dose สูตร S-S-A (Sinovac-Sinovac-AstraZeneca) โดยจะฉีดแอสต้าเซนเนก้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังฉีดซิโนแวค เข็มที่ 2 ด้วยวิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (IM) และฉีดใต้ผิวหนัง (ID) เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทย
โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ 242 ราย พบว่า ประสิทธิผลของการให้ Viral Vector SARS-CoV-2 vaccine แบบเข้ากล้ามเนื้อ (IM) จำนวน 120 คน กับการฉีดใต้ผิวหนัง (ID) จำนวน 122 คน พบว่า มีอาการหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 บูสเตอร์ มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง
อาการที่พบหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 บูสเตอร์
แบบเข้ากล้ามเนื้อ (IM) แบบใต้ผิวหนัง (ID)
ไข้ต่ำ ปวดศีรษะ 87% 44%
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 28.6% 12%
ปวดบวมแดง ร้อนบริเวณที่ฉีดวัคซีน 16.9% 52%
คลื่นไส้ อาเจียนน้อยกว่า 5 ครั้ง 5.2% 5.3%
ท้องเสีย 3.9% 4%
ผื่นแดงเล็กน้อย 2.6% 28%
** IM มีอาการรุนแรง ไข้สูง 1 คน
อย่างไรก็ดี จากการการศึกษาดังกล่าว ทำให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบในการใช้การฉีดวัคซีน Booster dose สูตร S-S-A (Sinovac-Sinovac-AstraZeneca) ด้วยวิธีฉีด Intradermal (ID) เป็นทางเลือกที่ฉีดวัคซีนให้กับคนไทย พร้อมกับมอบหมายกรมควบคุมโรค แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป