บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ครม.ไฟเขียว เปิดให้ลงทะเบียนใหม่แล้ว เช็คเลย

21 ก.ย. 2564 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2564 | 16:36 น.

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ครม.ไฟเขียว เปิดให้ลงทะเบียนใหม่แล้ว พร้อมอัดงบงบ 2.7 หมื่นล้าน ให้กองทุนประชารัฐ พร้อมขยายค่าน้ำ ค่าไฟ เช็คเลย

วันนี้  22 ก.ย. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน กรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินให้กับผู้ถือบัตรประมาณ 13.6  ล้านคนไปแล้ว ก่อนหน้านี้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.53 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 7,852.8 ล้านบาท
 

ไทม์ไลน์โอนเงิน

  • 1 ก.ย. โอนเงินค่าสินค้าประจำเดือนสูงสุด 300 บาท และ โครงการเพิ่มกำลังซื้ออีก 200 บาท
  • 3 ก.ย.ที่ผ่านมาผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4.7 ล้านคนได้รับเงินตกเบิกสูงสุดจำนวน 1,000 บาท และ สามารถกดเป็นเงินสดได้ (งวดสุดท้าย) 
     

วันที่ 15 ก.ย.

  • คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม5%  คืนเข้าบัตรตามยอดการใช้จ่าย เช่น
  • จ่ายผ่านบัตรฯ 100 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ จำนวน  5 บาท
  • จ่ายผ่านบัตรฯ 500 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ  จำนวน 25 บาท
  • จ่ายผ่านบัตรฯ 1,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ จำนวน 50 บาท
     

 

วันที่ 18 ก.ย.

ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า 230 บาทหนึ่งครัวเรือนได้หนึ่งสิทธิเงื่อนไข  ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 เห็นชอบการขยายเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าโดยใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือนให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมดพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาท
 
 

วันที่ 22 กันยายน

 

  • ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นเงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผู้พิการ 200 บาท โอนให้ประมาณวันที่ 22 สิงหาคม ผู้ได้รับสิทธิสามารถนำบัตรไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ได้ที่ ตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย

 

รายละเอียด

  • ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โอนเข้าบัญชีธนาคาร 1,000 บาทต่อเดือน (จากเดิม 800 บาทต่อเดือน)
  • ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเข้าบัญชีธนาคาร 800 บาท และจะได้รับเบี้ยความพิการเพิ่ม 200 บาทต่อเดือน

สำหรับเบี้ยความพิการ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน สามารถกดเป็นเงินสดได้  ขั้นตอนกดเงินสด 

  • กดเป็นเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม( ATM )ธนาคารกรุงไทย
  • สอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย 
  • ใส่รหัสผ่าน 6 หลัก
  • เข้าหน้าเมนูหลักแล้ว ให้กดปุ่ม"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" (*หากตู้เอทีเอ็ม ที่ไม่มีปุ่ม "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" จะไม่สามารถทำรายการต่อได้ ต้องหาตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทยตู้อื่นแทน )
  • จากนั้นกดปุ่ม "ขอดูยอดวงเงินเหลือ" เพื่อตรวจสอบว่ามีเงินโอนเข้ามาหรือไม่ และเหลือยอดเงินที่สามารถกดได้เท่าไร
  • หน้าจอจะแสดงยอดเงินคงเหลือที่ใช้ได้ โดยระบบจะถามว่า ท่านต้องการบริการอื่นอีกหรือไม่ หากต้องการถอนเงิน ให้กดปุ่ม "ต้องการ "ระบบจะกลับมาที่หน้าเมนูหลักอีกครั้ง หลังจากนั้นให้กดปุ่ม "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ซ้ำ 
  • กดปุ่ม "ถอนเงิน"- ใส่จำนวนเงินที่ต้องการถอนและกดปุ่ม"ถูกต้อง"จากนั้นจะได้รับเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม

 
ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้กระทรวงการคลังเร่งทบทวนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างทั่วถึง เนื่องจากถึงเวลาต้องทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ถือและเป็นการสำรวจข้อมูลประชาชนอีกครั้ง หลังบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว

 

ขณะนี้ สศค. อยู่ระหว่างการสรุปหลักเกณฑ์และเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ คาดจะเสนอนายกรัฐมนตรีได้ในเร็วๆ นี้

 

ล่าสุดวันนี้ 21 ก.ย.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 27,005.66 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้

 

1. วงเงิน 2,018 ล้านบาท เพื่อขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ/ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – กันยายน 2565 (12 เดือน) -กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน กรณี ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน กรณีใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด ครอบคลุม 1.9 ล้านครัวเรือน โดยประมาณ

 

- สนับสนุนค่าน้ำประปา วงเงิน 100 บาท /ครัวเรือน /เดือน ในกรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระด้วยตนเอง และกรณีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาเองทั้งหมด ครอบคลุมประมาณ 186,625 ครัวเรือน

 

2. วงเงิน 18,815 ล้านบาท สนับสนุน ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ

 

-ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ โดยผู้มีสิทธิที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับ 200 บาท/คน/เดือน ในส่วนผู้มีสิทธิที่มีรายได้ ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับ 300 บาท/คน/เดือน และได้รับส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 55บาท/คน/3 เดือน

 

-ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ ค่าโดยสาร ขสมก. ระบบ e-Ticket /รถไฟฟ้า บขส. รถไฟ อย่างละ 500 บาท/คน/เดือน

 

-เบี้ยความพิการ จำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน อีกด้วย

 

3. วงเงิน 1,642 ล้านบาท ดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ

 

4.วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท สำหรับจัดสรรสวัสดิการแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีบัตรฯ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ผู้สมัครรอบใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น.